วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Flying to Brisbane 12


Going to Brisbane.
17 เม..2551
          วันนี้อากาศเย็นมาก ออกมานั่งคุยกับโรบิน แล้วดูเทอร์โมมิเตอร์ 16 องศานะ
          ราฟาเอลแต่งตัวออกมาก่อน เราจึงรีบอาบน้ำแต่งตัว ออกมาเห็นกระเป๋าใบใหญ่ตั้งอยู่ ถามโรบินจึงทราบว่ามาคาโอะ จะย้ายออกวันนี้
          ก่อนออกจากบ้านต้องใส่เสื้อแจ็กเก็ต ไม่งั้นทรมานแน่
          ถึง Cultural Centre Station เดินไป Museum พบน้องแอน คุยกันสักครู่ จอย เอ็ม นาก็มาถึง เลยชวนกันไปนั่งทำงานที่หน้าห้องสมุด มัวแต่ถ่ายรูปหน้าอาคาร พอเข้าไปข้างใน สาวๆหายไปหมดแล้ว แต่เห็นที่หน้าห้องสมุดจะมีโต๊ะใหญ่ๆ 1 ตัวมีเก้าอี้ 6 ตัว มีคนนั่งใช้งานคอมพ์โน้ตบุ้ค 5 คน เหลืออีก 1 ที่เราเลยเอาโน้ตบุ้คออกมาบ้าง พยายามส่งอีเมลไปหาเปี๊ยก แต่ก็ส่งไปไม่ได้ ช่วงที่รอส่งอีเมล ออน msn เจอเปี๊ยกออนทิ้งไว้ เลยส่งข้อความไปทักทาย ที่ไหนได้ กลายเป็นยายแจ๋นไปซะงั้น
          พอส่งอีเมลไม่สำเร็จ เลยขออีเมลของ gmail แล้วก็แนบไฟล์ส่งไปที่อีเมลใหม่นี้ อืมมม ได้แฮะ แล้วก็จัดการส่ง username และ password ของอีเมลใหม่นี้ไปให้เปี๊ยก คิดว่าเปี๊ยกคงเปิดอีเมลได้นะ
          แต่พอมองดูแบต เหลืออยู่แค่ครึ่งเดียว เลยปิดเครื่อง เพราะกลัวน้องๆจะเช็คเมลกันไม่ได้ แล้วก็จัดการเขียน Learning Log ที่ค้างอยู่ 2 วัน เขียนยังไม่ทันเสร็จดี น้องปูชวนไปโรงเรียนเพราะใกล้เวลาแล้ว รีบปั่นจนเสร็จ แต่ Diary ของ Joleene ยังไม่ได้ทำ 2 วัน ที่ไม่ได้ทำเพราะวันก่อนน้องศิยืมไป
          นั่งรถเมล์ไปถึงโรงเรียน จำไม่ได้ว่าใครเอาข้อมูลของคณะเราออกมาดู เลยขอดูว่าเดือนนี้มีวันเกิดของใครบ้าง เห็นมีที่ใกล้ๆก็น้องอูม อัจฉริยะประจำกลุ่มเกิด 16 เมษา อานนท์ 18 เมษา แล้วใครอีกคนนะ ประมาณ 23 เมษา พวกเราเลยไปอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้น้องอูม สำหรับอานนท์เราคิดว่าจะเซอร์ไพร้ซ์น้องเขา แต่จะเป็นอะไรยังนึกไม่ออก
          ชั่วโมงแรก 11:15 . เข้าไปได้สักครู่ Lindy ก็เข้ามาแล้วบอกว่าวันนี้ขอเลื่อนเวลาสอนของ Group 1 ให้มาเรียนตอน 13:30 พวกเราเลยชวนกันไปทานข้าวกันที่ร้านเดิม วันนี้น้องไหวไม่ได้มาด้วยเพราะอยู่ Group 2 ต้องอยู่เรียนก่อน แต่มีสมาชิกมาใหม่ 2 คนคือ น้องหญิงกับน้องปาน
          สั่งต้มยำไก่ ต้มยำทะเลกับอะไรนะ จำไม่ได้แต่เป็นปลา คล้ายๆกับผัดน้ำพริกเผา นี่ถ้าเปลี่ยนปลาเป็นปลาหมึก จะคล้ายกับปลาหมึกผัดน้ำพริกเผามาก ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย น้องหญิงชมว่าตั้งแต่มาอยู่ออสเตรเลีย วันนี้ทานอาหารได้อร่อยที่สุด
          ค่าอาหารวันนี้ 36.20 ดอล เราให้น้องๆออกคนละ 7 ดอล ที่เหลือเราเหมาเอง
          อาดุลย์ไปละหมาด น้องหญิงกับน้องปานไปห้องสมุด เรากับอานนท์ไปช้อปปิ้งกัน นั่งรถ 199 ไปลงด้านข้าง City mall แล้วเดินไปร้าน Duty Free เลือกของใส่ตะกร้าแล้วไปรอจ่ายตังค์ ในตอนนี้เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจ่ายเงินอยู่ ในมือผู้ชายเห็นถุงใส่บุหรี่กรองทิพย์ 1 cotton จึงชี้ให้อานนท์ดูแล้วบอกว่า มีบุหรี่กรองทิพย์ด้วย ชายคนนั้นจึงหันมาพูดว่า ผมเพิ่งกลับมาจากเมืองไทยครับ แหม จุดไต้ตำตอเลยเรา แล้วเราก็ขอความรู้เขาเรื่องครีมรกแกะ เขาแนะนำบางอย่างให้เรารู้ เราเลยซื้อมาบ้าง
          สรุปว่าได้ เนคไท 2 เส้น 40 ดอล ที่ใส่ดินสอปากกา 3 อัน 10 ดอล พวงกุญแจหมีโคอาล่า 9 ดอล ครีมรกแกะ 80 ดอล รวม 139 ดอล
          เดินอกไปร้านที่หัวมุม หยิบหมวกมา 4 ใบ 10 ดอล แล้วเดินไปดูของข้างล่าง เห็นไม่มีอะไรน่าสนใจ (เพราะเงินหมด) เลยจ่ายตังค์แล้วออกมา (เอาไว้วันหลังมาใหม่นะ) แล้วขึ้นรถไปโรงเรียน เข้าห้องช้าไป 10 นาที โดน Joleene แซวเลย
          ช่วงแรก Jo สอน idioms ที่น่าสนใจ แล้วเข้าเนื้อหาเรื่องการควบคุมห้องเรียน โดยใช้หนังสือหน้า 107-109 ประกอบ ให้ครูเข้ากลุ่มอภิปรายปัญหาเรื่องภายในห้องเรียน และการใช้ภาษาอังกฤษในห้องเรียน
          ช่วงชั่วโมงหลังเรียกครูแต่ละกลุ่มไปหน้าห้อง อธิบายภารกิจเกี่ยวกับการวิจัยที่แต่ละกลุ่มได้รับ หลักการเขียนวิจัย ของกลุ่มเราเป็นการใช้กลยุทธ์ในการสร้างวินัยในห้องเรียน จะทำได้หรือไม่ได้ยังไม่รู้เลย
          เลิกเรียนต้องรอราฟาเอลก่อนแล้วกลับพร้อมกัน วันนี้ในรถคนเยอะมาก ราฟาเอลได้ขึ้นเป็นคนสุดท้าย ต้องยืนกันตลอด คนเต็มนี่ก็ดีนะ ไม่เสียเวลาจอดรับคนเลย ได้แต่ส่งคน ไปถึง Browns Plains 6 โมงกว่าเล็กน้อยยังพอมีเวลา เลยโทรศัพท์ไปหาเปี๊ยก คุยกันได้ไม่นานคนขับเรียกให้ขึ้นรถ ขึ้นไปนั่งก็สงสัยว่าเรียกมาทำไม ยังเหลือเวลาอีก 15 นาที แต่เห็นคนขับคุยกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ต่อมาก็หญิงสาวคนหนึ่งมาคุยกับเด็กหนุ่มคนนั้น พอเด็กหนุ่มคนนั้นนั่งลงหน้าเรา เราก็เข้าไปถามว่าจะไปไหน พอเห็นในเอกสารว่า ไป 21 Benjimina Circuit เราเลยบอกว่าไปที่เดียวกัน เราก็อยู่ที่นั่น ตอนนี้เองที่เราเข้าใจว่า ทำไมคนขับรถจึงเรียกเราขึ้นรถ เพราะเขารู้ว่าเราอยู่แถวนั้นนั่นเอง
          เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อ ไมเคิล เป็นชาวฝรั่งเศส อายุ 25 ปี มาเรียน 3 สัปดาห์ ส่วนหญิงสาวคนนั้นก็คือชาวฟิลิปปินส์ที่อยู่แถวบ้านเรา ที่เราเคยทักทายวันก่อนนั่นเอง
          เข้าบ้านบอกโรบินว่าพาเด็กใหม่มาอยู่ด้วย ตอนแรกโรบินตกใจนะ แต่พอรู้ว่าเป็นใครก็ยิ้มออก
          สิ่งที่เราไม่พอใจ แต่จำเป็นต้องเก็บอาการคือ โรบินย้ายของของเราออกมาหมดและให้ไปนอนกับราฟาเอล ห้องที่เราอยู่ เอาไปให้ไมเคิลอยู่ ย้ายห้องเราไม่ว่า แต่ทำไมไม่บอกเราก่อน แย่จัง
          พรุ่งนี้คงต้องไปโรงเรียนพร้อมไมเคิล ถึง Cultural Centre ไมเคิลไปโรงเรียนเองได้เพราะวันนี้ไปมาแล้ว เราคงไปหาที่นั่งทำงานที่ห้องสมุด คนแก่ก็อย่างนี้แหละต้องรีบทำงานให้เสร็จ ไม่อยากโดนถอนหงอกนะ
















ไม่มีความคิดเห็น: