วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Flying to Brisbane 25


Going to Brisbane.
30 เม..2551
          โทรศัพท์มือถือก็ทำงานอย่างซื่อสัตย์ คือส่งเสียงปลุกเวลา 5:40 . ลุกขึ้นมาไปดูกาน้ำร้อน พอจะเปิดดูว่ามีน้ำแค่ไหนก็ยกกาก่อน ปรากฏว่ามันหนักมาก รู้ได้เลยว่ามีน้ำเยอะแล้ว เลยกดสวิทช์ให้กาน้ำร้อนทำงาน ไม่นานก็เดือด จัดแจงชงกาแฟ แล้วไปจัดการภารกิจ
          ออกมาดื่มกาแฟ เอาขนมปัง 2 ชิ้นมาทาแยม พอทาเสร็จก็งงนะ เพราะโรบินเธอเอาถุงกระดาษสำหรับใส่อาหารมาให้ 1 ใบ แล้วบอกว่าเอาใส่ขนมปัง เพราะถ้าขึ้นรถแล้วเขาไม่ให้กิน จะมีปัญหาในการเอาขึ้นรถ เอ……วันนี้ทำไมใจดีจัง เมื่อคืนก็เช่นกัน ตอนที่เรากำลังทำงาน ก็เรียกเราไปดูตัวพัสซั่ม ที่ปีนอยู่บนต้นไม้ เธอเอาไฟฉายส่องให้ดูอย่างชัดเจนเลย เพราะต้นไม้ต้นนั้นอยู่หลังบ้านใกล้ๆรั้ว
          มีเวลาเยอะเลยเดินไปช้าๆ กินขนมปังไป วันนี้อากาศหนาวเช่นเดิมแต่น้อยกว่าเมื่อวาน ก่อนออกจากบ้านดูเทอร์โมมิเตอร์ที่อยู่บนผนังหลังบ้าน 10 องศาเซลเซียส
          ถึงป้ายรถเมล์ได้ไม่นานเพื่อนบ้านผู้ใจดีก็มาถึง เธอบอกว่านึกว่าเรากลับประเทศไทยไปแล้ว เราบอกว่าอยู่แค่วันเสาร์ พอดีรถมาถึง ขึ้นรถไปก็เจอ 2 สหายเลยนั่งคุยกันไป
          ไปถึงห้องเรียนก่อนเวลาเล็กน้อย นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เขียนรายงานการไปสังเกตการสอน เลยรีบปั่น ช่วงนี้ Joleene เข้ามาสอนโดยให้แต่ละกลุ่มออกไปสาธิตการสอนแบบ T.B.L. ต่อด้วยการสอนและตรวจงานตามที่เรียนมาเมื่อวาน เขียนรายงานยังไม่ทันเสร็จ ปูก็มาคุยด้วย เธอบอกว่าวันนี้ต้องสอนนะเรื่องการตรวจงาน แต่ไม่มีใครเตรียมตัวเลย ปูอธิบายหลักการสอนให้ฟัง หวังจะให้เราออกไปสอน แต่เราบอกว่าอะไรก็ตามถ้ารีบเร่งและรีบร้อน สมองเราจะไม่รับ จะทำอะไรไม่ได้เลย เลยขอให้ปูเป็นคนสอน แล้วให้เราใช้คอมพ์หารูปเพื่อจะได้เอาไปเป็นอุปกรณ์การสอน
          เราเลือกรูปเด็กไปซื้อไอศกรีม และมีคน 3-4 คนในรูป พอได้เวลาก็ออกไปด้นกันสดๆเลย มันส์มากเพราะแต่ละคนก็พยายามช่วยกันอย่างสุดฤทธิ์ เริ่มจากปูให้ดูรูปแล้วเขียนบรรยายรูปคนละ 2 ประโยค จากนั้นให้แต่ละคนออกไปเขียนบนกรดานคนละประโยค ทุกคนออกไปเขียนผิดๆถูกๆกันหมด จากนั้นปูก็จะให้แต่ละคนตรวจดูบนกระดานแล้วให้ออกไปแก้ไขให้ถูก แล้วปูก็จะตรวจและแก้อีกครั้งตามวิธีการที่เรียนมา พอสอนจบพวกเราทุกคนขำกันมาก นี่แหละ……ครูมืออาชีพจาก Thailand
          หลังจากเบรค 10 นาที Joleene ก็มาบอกคะแนนการสอบ Entry Test และ Exit Test โดยบอกทีละคน ไม่ให้คนอื่นรู้ เราได้ 50, 59 ดีขึ้นนะ ของคนอื่นเขาบอกเหมือนกันแต่จำไม่ได้
          จากนั้น Joleene สอนเรื่อง Coursebook analysis การวิจารณ์หนังสือเรียน โดยเขียนบนกระดานว่า Advantage กับ Disadvantage จากนั้นให้พวกเราบอกเหตุผลในการเลือกหนังสือว่าต้องมีลักษณะอย่างไร และมีข้อเสียอย่างไร แล้วแจกชี้ท Interview : Coursebook analysis แล้วอธิบายถึงลักษณะหนังสือที่ดี
          แจกหนังสือให้พวกเราดูและวิจารณ์ตามหัวข้อที่กำหนด และให้ออกไปวิจารณ์กันทีละกลุ่ม แต่วิจารณ์ได้ 2-3 กลุ่ม Kate ก็เข้ามานัดหมายวันพรุ่งนี้ที่เราจะไปดูงานที่โรงเรียน St. Stephen ที่ Gold Coast แล้วก็พูดถึงการเดินทางกลับที่จะมีคนไปรับเราที่ Homestay และพูดถึงน้ำหนักของที่เราสามารถเอากลับได้ สรุปคือประมาณ 20 กิโล สงสารอาดุลย์นะเพราะซื้อมาเยอะ แต่จะว่าไปของเราเองก็ยังไม่รู้เลยว่ากี่กิโล เพราะตอนมาก็ 17 กิโลแล้ว เอาไว้วันศุกร์ค่อยเอามาชั่งก็ได้
          ร้านมาเลย์วันนี้มีสมาชิกเพิ่มอีก 3 คนนอกจากเรา 4 คนกับน้องหญิงที่เป็นเจ้าประจำกันแล้ว ก็มีน้องจอย น้องแอน และสมพรมาเพิ่ม ก็สั่งต้มยำทะเล 2 ชาม ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา (ตั้งชื่อเอาเองเพราะรสชาติใกล้เคียงกัน) มัสมั่น ข้าวผัดไก่ เราเอาปลากระป๋องไป 1 กระป๋อง อานนท์เอาข้าวไป 1 กล่องเอาไว้เติมและไข่ต้มอีก 6 ฟอง
          ไม่เล่านะว่าผลเป็นอย่างไร ก็รู้ๆกันอยู่ น้องจอย น้องแอน และสมพรบ่นเสียดายเพราะมารู้จักร้านนี้ตอนที่จะกลับแล้ว
          อาหารวันนี้ 53.50 ดอล หารกันได้คนละ 6.70 ดอล น้องไหวออกไปก่อน เราให้น้องไหวไป 10 ดอลเพราะวันก่อนค้างไว้ 3 ดอล
          สาวๆและสมพรกลับไปก่อน อาดุลย์ไปละหมาด เรากับอานนท์รออยู่ที่ป้ายรถเมล์ พออาดุลย์มาพวกเราก็นั่งรถไปห้องสมุดเพราะนัดกับน้องปูไว้ที่นั่น
          ใช้เวลา 3 ชั่วโมงพอดีงาน Research โดยใช้ Power Point จึงเสร็จ แต่ก่อนหน้านั้นอานนท์ขอไปเล่นบอลกับเด็กต่างชาติ พวกเราที่เหลือก็ทำงานกันไป งานเสร็จก็ได้เวลากลับพอดี เสียดายที่ไม่มีเวลาไปเที่ยวต่อ
          ไปถึง Browns Plains 6:11. มีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง เลยโทรศัพท์กลับบ้าน แต่ก็โดนกินเหรียญเพราะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย มันเงียบไปหมด พอดีไมเคิ่ลมาถึงก็ยืนคุยกัน หันมาดูอีกทีอาดุลย์หายไปแล้ว นึกว่าไปดูของที่ห้าง ที่ไหนได้สักครู่ก็เดินยิ้มแฉ่งกลับมา บอกว่าขึ้นรถผิดคัน ตาฝาดมอง 550 เป็น 560 วันนี้เรากับไมเคิ่ลเลยนั่งรถไปกับอาดุลย์ เร็วนะ ใช้เวลาแค่ 8 นาทีเอง แต่ต้องเดินไกลอีกหน่อย
          ตอนที่คุยกับไมเคิ่ล เขาบอกว่าพอเรียนจบอีก 2 อาทิตย์ก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะไม่ชอบนิสัย และความไม่สุภาพของ โรบินกับซูแอน เขาก็รู้ว่าโรบินทำอะไรกับเรา เขาบอกว่าตั้งแต่มาอยู่ที่ออสเตรเลียเดือนกว่ายังไม่เคยเจอชาวออสซี่ที่ดีๆเลย เขาบอกว่าออสเตรเลียเป็นประเทศร่ำรวย แต่สังคมที่นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ ถ้าภาษาอังกฤษเขาดีแล้วเขาก็จะไม่อยู่ที่นี่อีก
          วันนี้ให้พวงกุญแจไมเคิ่ล 1 อันเป็นรูปพระราชวังบอกเขาว่าเป็นของที่ระลึกจากเมืองไทย เขาดีใจมาก เขาถามย้ำอีกว่าจากประเทศไทยนะ เราบอกว่าใช่ เขาคงนึกว่าเราหาซื้อมาจากแถวนั้นมั้ง
          พรุ่งนี้ต้องไปให้ถึงโรงเรียนก่อน 8:15 เพราะไม่งั้นตกรถอดไปแน่นอน คงต้องตั้งนาฬิกาปลุกที่ 5:30 แล้วไปขึ้นรถ 560 ที่หน้าโรงเรียน แต่สำคัญที่ว่านาฬิกาปลุกแล้วจะมีแถมอีกบ้างไหม เท่านั้นเอง
          ------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น: