วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Flying to Brisbane 13



Going to Brisbane.

18 เม..2551

          รู้สึกตัวตื่นเวลา 5:10 . นอนเล่นสักพักก็ลุกขึ้น ออกมาคุยกับโรบิน กินกาแฟ ขนมปังทาแยม แล้วไปทำภารกิจส่วนตัว เพราะเดี๋ยวไมเคิลตื่นมาต้องแย่งห้องน้ำกัน

ตอน 6:15กำลังคิดว่าจะไปปลุกไมเคิลดีหรือเปล่า พอดีเห็นเขาเข้าห้องน้ำ เลยนั่งรอ

6:40 เข้าไปบอกที่ห้องว่า “Michael, I will leave in two minutes.” เขาพยักหน้าเข้าใจแล้วออกมา เราบอกให้เขากินนมกับขนมปัง แล้วเตือนให้เอาน้ำไปด้วย

วันนี้อากาศเย็นเหมือนเดิม ต้องใส่เสื้อแจ็กเก็ตเหมือนเดิม สังเกตดูการแต่งตัวของไมเคิล ใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอกลมยับนิดหน่อย แบบว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ นักเรียนต่างชาติคนอื่นๆที่โรงเรียนก็เหมือนกัน

รีบจ้ำเท้าเดินไปป้ายรถเมล์เพราะกลัวไม่ทัน แต่พอหลุดโค้งเห็นเพื่อนบ้านยืนรอรถก็อุ่นใจนะ ไปถึงก็ยกมือไหว้ เพื่อนบ้านชาย หญิงทั้ง 2 คน แล้วแนะนำไมเคิลให้รู้จัก

ถึง Cultural Centre บอกให้ไมเคิลไปก่อนเพราะต้องอยู่ทำงานที่หน้าห้องสมุด ไปถึงก็เปิดคอมพ์ พยายามส่งอีเมลไปที่ happy_hap@hotmail.com ส่งได้นะแต่จากหลายๆอีเมล แต่พอจะส่ง power point กลับส่งไม่ได้ ไฟล์คงใหญ่เกินไป

ไม่ได้เข้า msn แต่ไปโทรศัพท์หาเปี๊ยก วันนี้โทรเข้ามือถือติดง่าย อาจจะเป็นเพราะตัด 0 ตัวหน้าทิ้ง บอกเปี๊ยกเรื่อง อีเมลที่ส่งไปให้บอก username และ password ให้ลองเปิดดู เปิดได้นะ แต่ไม่มี power point

สักครู่ก็โทรไปหาตึ๋งที่อ่างทอง ตึ๋งดีใจมาก ก็เล่าเรื่องการใช้ชีวิตในบริสเบนให้ฟัง แต่พอจะโทรไปคุยกับพี่ต๊อปที่ลำปาง ฝรั่งนายหนึ่งให้สัญญานว่าขอโทร 2 นาที เลยต้องวางสายให้เขาโทรบ้าง

มานั่งทำ Learning Log กับน้องๆ แต่ Diary เขียนไม่ได้เพราะสมุดส่ง Joleene ไปเมื่อวาน พอใกล้ 10:00 . เลยชวนกันเดินไปโรงเรียน

วันนี้ไม่โดนแซวเพราะเข้าห้องก่อนเวลา Joleene สอนเรื่อง Stress Maze โดยฝึกการออกเสียงเน้นหนักในคำ มีเกมต่างๆให้เล่น ให้ฝึก และเทคนิคการสอนการออกเสียง

กลางวันวันนี้ไปทานข้าวกันที่ร้านเดิม แต่ไปกัน 4 คนคือเราผู้ชาย 3 คนกับน้องหญิง วันนี้สั่งต้มยำทะเล กับผัดแบบเมื่อวานแต่เปลี่ยนจากปลาเป็นปลาหมึก จานนี้กินแล้วคล้ายๆปลาหมึกผัดพริกเผา อีกจานอานนท์ขอลอง Seafood Laksa อาดุลย์บอกว่าถ้าเดาไม่ผิด ถ้าเป็นภาษามาเลย์ จะเป็นอาหารคล้ายๆขนมจีน พอเขายกมาให้ก็เป็นแบบที่อาดุลย์บอก แต่ที่ต่างกันคือเส้นจะเป็น 2 แบบ แบบหนึ่งคล้ายๆเส้นบะหมี่แต่เส้นโตกว่า ลื่นกว่า อีกแบบหนึ่งจะคล้ายๆกับหมี่ขาวบ้านเรา ค่าอาหารวันนี้ 34.40 ดอล อานนท์จะเอาแค่คนละ 8 ดอล

แต่เรากับน้องหญิงไม่ยอม เราให้กันคนละ 9 ดอล ไม่อยากให้น้องเสียเปรียบ

          อาดุลย์ขอไปทำละหมาดก่อน เรา 3 คนเลยนั่งรถไปห้องสมุดกัน

          ไปคอยกันที่หน้าพิพิธภัณฑ์ สักครู่น้องเอ็มเอาคอมพ์มาคืน เพราะก่อนที่จะไปกินข้าว ให้คอมพ์ไว้กับอี๊ด เพราะอี๊ดกับอิ๋วจะเบิร์น CD และคนอื่นๆก็จะเช็คอีเมลกัน

          Joleene พาไปห้องสมุดและแนะนำกับหัวหน้าห้องสมุดว่าพวกเราเป็นครูมาจากประเทศไทย มาฝึกอบรมที่โรงเรียน EF พอทราบว่าเป็นคนไทย หัวหน้าที่เป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ก็ทักทายว่า สวัสดีครับ สบายดีไหมครับพวกเราเลยรีบยกมือไหว้และตอบว่า สบายดีครับ/ค่ะ

          เขาบอกว่าเขาได้แฟนเป็นสาวเชียงใหม่ เขาเคยไปกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย

          เขาแบ่งพวกเราออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มของเราเป็นผู้หญิงค่อนข้างสูงอายุ เป็นอาสาสมัครพาเราเยี่ยมชมห้องสมุด

          ห้องสมุดที่นี่ใหญ่โตมาก มี 5-6 ชั้น แทบทุกชั้นจะมีบริเวณสำหรับให้ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของห้องสมุด หรือเราจะนำโน้ตบุ๊คของเราไปใช้ก็ได้ เพราะที่นี่เน็ตไร้สายจะไม่มีการ บล้อคสัญญาน ทุกเครื่องที่เล่นเน็ตไร้สายจะมาเล่นที่นี่ได้เลย เหมือนกับที่เราเริ่มมาเล่นที่นี่เมื่อ 3 วันก่อน

          ห้องจัดกิจกรรมขนาดจิ๋ว เล็ก กลาง ใหญ่ มีอยู่ที่นี่ ห้องสำหรับเด็กเล็ก เด็กอนุบาล ก็มีอยู่ที่นี่ ตอนมาดูมีผู้ปกครองพาเด็ก 2-3 ขวบมาเล่นกันที่นี่ 5-6 คน

          ห้องดูโทรทัศน์จอใหญ่ก็มี  ส่วนที่เก็บหนังสือพิมพ์ตั้งแต่สมัยก่อนก็สามารถดูได้ สำหรับหนังสือไม่ต้องพูดถึงมีมากมายมหาศาล เขาแบ่งเป็นหมวดหมู่ย่อยลงไปอีกมาก จนถึงเลขหลังจุดทศนิยม 3 หลักนะ

          มีการแสดงการอนุรักษ์หนังสือ การซ่อมหนังสือ ทั้งที่นี่ และคำแนะนำสำหรับไปซ่อมหนังสือที่บ้าน

          บางครั้งก็มีการจัดอบรมปฏิบัติการในเรื่องต่างๆ ทุกๆส่วนของห้องสมุดสะอาดมาก สามารถนอนได้เลยโดยไม่ต้องกลัวฝุ่น

          เมื่อวานตอนเช้าพอเดินมาทางพิพิธภัณฑ์ เห็นเจ้าหน้าที่เอาเครื่องเป่าลมมาเป่าบริเวณบันได ทุกซอกเพื่อไล่ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ในห้องสมุดก็มีคนถูพื้นและเช็ดกระจก

          ทุกๆเช้าอย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า จะมีคนเอาโน้ตบุ๊คมาใช้งานกันที่หน้าห้องสมุด และพอใกล้เวลาห้องสมุดเปิด คนจะเข้าแถวรอไปใช้บริการกัน

          ลงมาชั้นล่างพอเจ้าหน้าที่อธิบายจบ น้องๆให้เราเป็นตัวแทนมอบของที่ระลึก ตอนแรกเธอจะไม่รับเพราะเธอบอกว่าเป็นอาสาสมัคร แต่พวกเราก็ขอให้เธอรับจนได้

          บ่าย 3 โมงครึ่งพอดีที่จบการบรรยาย เราสามคนเลยข้ามไป City Mall เพื่อไปหาของที่ระลึกกัน

          วันนี้อาดุลย์ได้ของไปฝาก ผอ. ผู้ช่วยฯ และลูกสาวที่บ้าน เราให้ข้อคิดอาดุลย์ในการเลือกซื้อของฝาก โดยพยายามให้ของที่ใช้ประโยชน์ได้ ไม่ใช่ตั้งไว้เฉยๆ แล้วพาไปร้านใต้ดิน และร้าน Duty Free

          วันนี้เราได้บูมเมอแรง 3 อัน อันละ 2.95 ดอล พวงกุญแจเหล็ก 12 อัน 15 ดอล พวงกุญแจโคอาล่าอีก 3 แพ็ค 9 ดอล และตุ๊กตาจิงโจ้ 8 ดอล

          นั่งรถกลับมาถึง Browns Plains 6 โมง 5 นาที กะว่าจะโทรศัพท์ไปนครนายก แต่เครื่องบอกว่า ไม่รับเหรียญ รับแต่บัตร สงสัยเงินคงเต็มช่อง เลยขึ้นรถกลับบ้าน

          พรุ่งนี้จะไป Gold Coast กัน นัดกันที่สถานีรถไฟตอน 9 โมงเช้า เราจะไปทันไหมนะเพราะวันเสาร์รถเที่ยวแรกจะมาสาย แต่ก็บอกน้องๆไว้แล้ว

          ไมเคิลกับราฟาเอลคงกลับดึกวันนี้เพราะมีปาร์ตี้ ไม่รู้ว่าที่ไหน โรบินเข้านอนแล้ว เราคงนั่งทำงานอีกหน่อยเพราะเพิ่ง 3 ทุ่มครึ่งเอง /////





--------------------------------------------------------



                          กับ Michael ชาวฝรั่งเศส

           ต้มยำไก่ ปลาหมึกผัดพริกเผา Seafood Laksa
               กับน้องหญิงและเจ้าหน้าที่พาชมห้องสมุด



                                ในห้องพัฒนาเด็กเล็ก


ไม่มีความคิดเห็น: