Going
to Brisbane.
1 พ.ค.2551
เมื่อคืนนอนหลับอุ่นสบายเพราะโรบินเอาผ้าห่มมาเพิ่มให้อีก
1
ผืน นอนบนโซฟาก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องกังวลว่าจะไปรบกaวนใคร
อากาศหนาวมาก (12 องศา)
เลยถือโอกาสไม่อาบน้ำ ออกจากบ้านพร้อมขนมปังทาแยม 2 แผ่นตอน 6:30
วันนี้ตั้งใจว่าจะเดินไปขึ้นรถ 560
ที่อาดุลย์กับอานนท์นั่งประจำ
ระหว่างทางก็ถ่ายรูปตู้รับจดหมายแปลกๆหน้าบ้านข้างทาง และป้ายจราจรแถวหน้าโรงเรียน
อากาศเย็นจนต้องเอามือล้วงกระเป๋าเพื่อคลายอาการปวดกระดูก
รถมาตามเวลา พอขึ้นรถก็เจอ 2 สหายเช่นเดิม
ที่วันนี้ต้องมาขึ้นรถที่นี่เพราะต้องไปถึงโรงเรียนก่อน
8:20 น. วันนี้มีรายการไปศึกษาดูงานที่ St.
Stephen’s Collage ที่ Gold Coast รถสายนี้ไปทางตรงไม่อ้อมเหมือนสาย
542 ที่เรานั่งประจำ ลองจับเวลาดูไปถึง Browns Plains
ใช้เวลาแค่ 10 นาที ไวกว่าประมาณ 8 นาที
จาก Browns Plains อานนท์ชวนนั่งสาย 540
เพราะเป็นรถสายด่วนทางไกล มีแค่ชั่วโมงละคันเท่านั้น คนไม่ค่อยนิยม
ใช้เวลาเร็วกว่าปกติ แค่ 7:55 ก็ถึง Cultural Centre แล้ว เดินไปโรงเรียนสบายๆ ไปถึงแค่ 8:05 วันนี้แปลกอยู่อย่างที่สาวๆพากันถ่ายรูปหน้าโรงเรียน
เราเลยต้องขอแจมด้วยคน
ขึ้นรถที่ Kate หามาประมาณ 8:25
น. ไปถึง St. Stephen’s Collage ประมาณ 9:20 จากนั้น Sam สาวใหญ่ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ก็มาแนะนำโรงเรียนให้ทราบและพาไปเดินดูรอบๆบริเวณโรงเรียน
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนตั้งแต่ชั้นเด็กเล็กไปจนถึงเกรด
12
และยังมีการสอนภาษาอังกฤษแบบ intensive English สำหรับนักเรียนต่างชาติตั้งแต่ไม่รู้เรื่องไปจนถึงใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
เท่าที่เห็นในวันนี้ส่วนมากจะเป็นชาวญี่ปุ่นกับเกาหลี
นอกจากนี้ยังมีการสอน Dancing และ Music โดยจะมีอาคารแยกต่างหาก รายละเอียดนอกเหนือจากนี้ไม่ทราบเพราะ Sam ไม่ได้พาไปดู
อาคารเรียนจะเป็นแบบ 2 ชั้น
หรือแค่ชั้นเดียว แต่ละห้องเรียนจะมีนักเรียนไม่มาก ประมาณ 22 คนต่อห้อง และทุกห้องจะเชื่อมกับห้องคอมพิวเตอร์แบบ 2 ต่อ 1 ส่วนห้องเด็กเล็กก็จะมีประมาณห้องะ 4 เครื่อง
ภายในอาคารห้องสมุดจะมีบู๊ทสำหรับนั่งทำงานส่วนตัว
และมีที่สำหรับอ่านหนังสือ แต่ที่ขาดไม่ได้คือเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับให้เด็กได้ค้นคว้า
ที่ชอบใจมากคือเครื่องเล่นสนามจะมีหลายสถานีอยู่ในชุดเดียวกัน
และพื้นจะปูด้วยยางเหมือนกับยางปูลู่วิ่งในสนามกีฬา และมีผ้าใบขึงกันแดด
เด็กเล็กจะมีเครื่องเล่นและอุปกรณ์การเรียน
การเล่น เกมต่างๆมากมาย ในแต่ละห้องจะมีห้องเล็กสำหรับเก็บอุปกรณ์การเรียนการสอน
ห้องน้ำสำหรับเด็ก อ่างล้างมือ ชั้นเก็บของสำหรับเก็บอุปกรณ์ของเด็ก
และแยกสัดส่วนสำหรับการจัดกิจกรรมแต่ละอย่าง
ยอมรับว่าอุปกรณ์การเรียนการสอนของโรงเรียนเราในแต่ละห้องมีไม่ถึง 1 ใน 10 ที่เขามี เราคงต้องทุ่มงบประมาณในส่วนนี้อีกเยอะ
ธรรมชาติเป็นสิ่งที่เขาหวงแหน
มีป่า(คล้ายๆกับป่าโกงกางในบ้านเรา)อยู่ติดด้านหลังโรงเรียนและมีสระน้ำเพื่อแยกส่วนระหว่างโรงเรียนกับสนามกีฬา
ถ้าเข้าไปในสนามบ๊าสเราคงงงเพราะตีเส้นสนามต่างๆไว้มากมายแยกเป็นสีต่างๆ
จนไม่รู้ว่าสนามไหนเป็นสนามอะไร
ก่อนกลับมีการมอบของที่ระลึกถ่ายรูปร่วมกันและทางโรงเรียนแจกเอกสารประกอบ
CD ROM เพราะเขาคงรู้ปัญหาของพวกเรา เลยไม่อยากให้พวกเราต้องขนของหนักๆกลับบ้าน
แค่ CD แผ่นเดียวก็บรรจุไว้หมดแล้ว
กลับไปถึงโรงเรียน 11:45 อาดุลย์กับน้องไหวต้องรีบไปทานข้าวแล้วไปละหมาด
เลยไม่ได้ไปกินข้าวร้านมาเลย์ ตกลงกันไว้ว่าพรุ่งนี้ถึงจะไป วันนี้เรา
อานนท์กับสาวๆประมาณ 7 คนเลยไปทานข้าวกันที่ร้านเวียตนามเจ้าเก่า
12:30 เข้าห้อง Ilab ก่อนอื่นเรามอบของที่ระลึกให้
Joleene น้องๆอีก 4-5 คนก็ให้ตาม
สักครู่ Joleene ให้ไปรวมกันที่ห้อง Ilab 2 ที่อยู่ติดกัน แจกผลการวิจารณ์การสอนให้ทุกคนยกเว้นเรา
เพราะเราไม่ได้ออกไปสอนในวิชาของเธอ เราออกไปในวิชาของ Lindy
เท่านั้น จากนั้น Joleene ก็มอบของที่ระลึกเป็นหมีโคอาล่าหนีบช้อกโกแล็ตให้ทุกคน
ตอนหลังของเหลืออีก 1 ชิ้นจึงมอบให้เราให้นำไปให้แฟนที่บ้าน
วันนี้ Joleene สอนการใช้ Internet โดยให้เข้าเว็บต่างๆ และได้แจกชี้ทเกี่ยวกับเว็บที่น่าสนใจมากมาย
เราก็ลองดูบางเว็บ อืมมม …. ใช้ได้ดีทีเดียว และตอนนี้เองที่แอบเปิดอีเมล
ก็ได้รับอีเมลของเปี๊ยกนะ แต่ไม่ได้ส่งกลับเพราะไม่มีไฟล์ข้อมูล
และคีย์บอร์ดก็ไม่มีภาษาไทย
ตอนเลิกไปส่งงาน Power Point ที่โต๊ะทำงานของ
Joleene ออกมานัดกับปูและเพื่อนๆว่าพรุ่งนี้จะไปไหนกันหลังเลิกเรียน
แล้วอาดุลย์กับน้องไหวก็ชวนไป Queen Street Mall อีกครั้งเพื่อไป
Shopping กันครั้งสุดท้าย
ที่ร้าน Duty Free ร้านเก่า เราซื้อ Pencil
Case เพิ่มอีก 3 ใบ
อาดุลย์กับน้องไหวก็ซื้ออีกคนละ 6 อัน แล้วก็เข้าร้านนี้
ออกร้านโน้นกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราได้เสื้อให้จี๊ปอีก 1 ตัว
10 ดอล นาฬิกาให้คุณแม่ ให้โต และสำหรับบ้านเรา
ถึงตอนนี้ต้องขอเล่ารายละเอียดสักนิด
เราเอานาฬิกาไปให้พนักงานตั้งเวลาให้
ตามเวลาในเมืองไทย เพราะต้องการเช็คความสมบูรณ์ของเครื่องโดยที่เราไม่ต้องทำเอง
ผลปรากฏว่า 2 เรือนแรกผ่านไปได้ด้วยดี แต่พอเครื่องที่ 3
เม็ดมะยมหลุด เอาเครื่องใหม่มาพอตั้งเวลาเสร็จ เราดู มันไม่เดินนะ
เลยต้องเปลี่ยนอีกเครื่องจึงใช้การได้ และเครื่องของน้องไหวอีกเครื่องก็ใช้ได้
เลยเล่าเทคนิคนี้ให้อาดุลย์กับน้องไหวฟัง
ร้านสุดท้ายเราขอยืมตังค์น้องไหว 10 ดอล
ไปซื้อเป้ให้ฟริเกตกับคีน พรุ่งนี้คงต้องไปแลกตังค์ใช้หนี้น้องไหว
กลับถึงบ้าน 6:50 โดยประมาณ
ที่ถึงบ้านไวเพราะกลับรถสาย 560 กับอาดุลย์
แล้วเดินเข้าบ้านถึงแม้จะไกลหน่อยก็ตาม
ทานข้าวเสร็จก็ถ่ายรูปกับราฟาเอลและไมเคิ่ล
แต่โรบินเธอไม่ยอมให้ถ่ายรูปแต่บอกว่าก่อนเรากลับเธอจะให้รูปเรา
อีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้กลับเมืองไทยแล้ว
แต่ก่อนกลับพรุ่งนี้จะขอเที่ยวให้ชื่นใจก่อนปูบอกว่าท้ายสุดจะนั่งเรือดูแสงสี 2
ฝั่งริมน้ำและไฟบนสะพานต่างๆ คงกลับประมาณทุ่มครึ่ง ไม่มีปัญหา
เรานัดกับอานนท์และอาดุลย์ไว้แล้วเตรียมตัวเดินกลับกันได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น