วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคการหลอกเด็ก 7 (ขอโทษครับ ผมพิมพ์ผิด)



เทคนิคการหลอกเด็ก 7 (ขอโทษครับ ผมพิมพ์ผิด)


        ปีนี้หนังสือเรียน Say Hello ของชั้นป.3 ที่ผมใช้สอนอยู่ ได้ปรับเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ มีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนเนื้อหาใหม่ เนื้อหาบางเรื่องโดนตัดทอนลง และบางเรื่องก็ย้ายไปอยู่กับหน่วยอื่น ทำให้ผมต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาในกรอบ Powerpoint ที่ผมทำไว้ในปีก่อนๆ มีการนำกรอบเก่ามาใช้ ผสมกับออกแบบใหม่ คิดใหม่ หาเทคนิคใหม่ๆ เพื่อเร้าความสนใจของผู้เรียน ให้เขาเรียนด้วยความสนุก ตื่นเต้น และคิดว่า วันนี้ผมจะเอาอะไรมาหลอกพวกเขาอีก ซึ่งพวกเขาจะต้องเอาชนะให้ได้
        ก่อนเข้าเนื้อหาทุกครั้ง ผมจะมีบทสนทนาง่ายๆให้เขาฝึกอ่าน และมีเกมทบทวนคำศัพท์ ซึ่งเกมทบทวนคำศัพท์นี่เองที่เด็กๆจะทราบว่านี่คือสิ่งที่ผมจะหลอก หรือทดสอบพวกเขา ทุกครั้งที่เด็กๆอ่านออก หรือทำได้ ผมก็จะแกล้งยอมแพ้ และบอกเด็กๆว่า "แหม! ผมคิดแทบตายกว่าจะได้อันนี้มา แต่ก็หลอกพวกคุณไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร พวกคุณอย่าเผลอนะ คราวหน้าจะหามาใหม่ให้พวกคุณงง คุณต้องโดนผมหลอกแน่ๆ" พอพูดจบ เด็กจะยิ้มและพูดว่า "ไม่โดน ไม่โดน"
        ในตอนพักกลางวันหรือหลังเลิกเรียน ผมมักจะใช้เวลาช่วงนี้ออกแบบกรอบ Powerpoint เพื่อใช้สอนในครั้งต่อๆไป บางครั้งก็จะคิดหาเทคนิคใหม่ๆ มาใช้สอนเด็ก และช่วงนี้นี่เองมักจะมีเด็ก 2-3 คนมาดู และจะถามผมว่า "คุณครูจะหลอกอะไรพวกผมอีกครับ" ซึ่งถ้าผมทำเสร็จ ผมก็จะให้เด็กๆดู และก็บอกพวกเขาว่า "คุณอย่าไปบอกใครนะ" เด็กจะยิ้ม และก็รับปากผม
        วันหนึ่งผมก็คิดหาวิธีทดสอบเด็กเช่นเคย แต่......จนแล้วจนรอดก็คิดไม่ออก วันนี้อยากทดสอบเด็กเรื่องชื่อวิชาต่างๆ และเทคนิคอย่างอื่นๆก็ใช้ไปหมดแล้ว อยากหาเทคนิคใหม่ๆบ้าง จะทำอย่างไรดีนะ มองดูสมุดงานของเด็ก เปิดดู......ไชโย นึกออกแล้ว
        อักษรที่เด็กเขียนมาส่งผมบางตัวเด็กจะเขียนผิด เช่น h เป็น n,   r  เขียนส่วนท้ายยาวกลายเป็น n หรือไม่ก็ r เป็น v ผมเลยใช้สิ่งที่เด็กเขียนผิดนี้มาเป็นแม่แบบในการออกแบบกรอบภาพที่ผมจะใช้สอนในครั้งต่อไป
        ในชั่วโมงสอน พอถึงส่วนนี้ ผมก็จะท้าทายเด็กๆดังนี้
 








        พอเด็กๆเห็นประโยคนี้ จะตั้งอกตั้งใจดูกรอบต่อไปว่าผมจะเอาอะไรมาหลอกพวกเขา แล้วผมก็กดรีโมทให้กรอบภาพต่อไปขึ้นมา ให้เด็กอ่าน

 









        ในกรอบนี้ ภาพจะขึ้นมาก่อนให้เด็กบอกว่าเป็นวิชาอะไร ผมแกล้งกดรีโมทเร็วๆเพื่อไม่ให้เด็กสังเกตเห็นความผิดปกติของคำศัพท์ พอผมกดรีโมทภาพสุดท้ายและเด็กพูดจบ ผมก็จะบอกว่าผมคอแห้งขอตัวไปดื่มน้ำสักครู่ แล้วผมก็ออกไปนอกห้องโดยที่ยังแช่กรอบภาพนี้ไว้บนจอ
        พอผมเข้ามาในห้องเท่านั้นแหละ เด็กๆจะตะโกนกันเซ็งแซ่เลยว่า คำนั้นผิด คำนี้ผิด ผมก็จะถามว่าคำไหนผิด ผิดตรงไหน ที่ถูกเป็นอย่างไร โดยให้เด็กพูดทีละคน เด็กพูดไปได้ 2 คน ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่า "คุณครูขา ผิดหมดทุกคำเลยค่ะ" ผมถามในห้องว่าผิดหมดทุกคำเลยหรือ เด็กๆจะตอบว่า "ใช่ครับ ใช่ค่ะ" กันลั่นไปหมด ผมเลยเริ่มตั้งแต่คำแรกอีกครั้ง พอเด็กบอกอักษรที่ผิดได้ถูกต้องผมก็กดรีโมท จะได้กรอบภาพดังนี้
 











        พอกรอบภาพนี้ขึ้นมา เด็กๆก็เข้าใจทันทีว่า ผมหาทางหลอกพวกเขาอีกแล้ว และผมก็แกล้งบ่นเช่นเคยว่า "แหม ! ผมพยายามหาทางหลอกคุณกี่ครั้งๆ ก็ไม่สำเร็จสักที เอ้า วันนี้ผมยอมแพ้" เด็กๆจะเฮกันทันที
        แล้วผมก็จะบอกเด็กๆว่า ที่ผมออกแบบมาแบบนี้เพราะผมเห็นบางคนเขียนอักษรผิด แล้วก็ให้เด็กๆช่วยกันบอกว่าเขียนผิดอย่างไร
        นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผมพยายามคิดหาทางให้เด็กได้เรียนอย่างสนุก แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมใช้ตลอดคือ การท้าทาย

******************************************************************************

 


  มณเฑียร  ฤกษ์วิสาข์
  17 กรกฎาคม 2556