วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Flying to Brisbane 11



Going to Brisbane.
16 เม.. 2551
          เมื่อคืนอากาศหนาวจนต้องใส่ถุงเท้าและเสื้อแจ็กเก็ตนอน ตื่นมา 6:10 . อากาศก็ยังหนาว ออกมาดื่มกาแฟกับน้ำส้ม แล้วก็ไปทำภารกิจส่วนตัว
          แต่งตัวเสร็จออกมา 6:45 . เหลือเวลาแค่ 6-7 นาที รีบออกจากบ้านจนลืมกินขนมปัง วันนี้ไปคนเดียวเพราะราฟาเอลบอกว่าวันนี้มีเรียนสาย และตอนเย็นไม่ต้องรอเขา เพราะเขาจะไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อน และจะหาทางกลับเอง
          คนขับรถวันนี้ไม่ใช่คนเดิม ต้องโชว์บัตรนานกว่าปกตินิดหน่อย หลังจากนั่งเรียบร้อยตาก็มองภายในรถ สิ่งที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับรถในบ้านเราคือ
1.      เบาะนั่งด้านละ 2 ที่นั่ง และจะมีที่นั่งสำหรับผู้พิการทั้ง 2 ด้านโดยหันหลังให้ด้านข้างตัวรถ ด้านละ 3 ที่
2.      สำหรับคนยืน จะมีที่จับห้อยมาจากราวเป็นระยะๆ
3.      ตรงล้อหลังเบาะนั่งจะหันหน้าเข้าหากัน
4.      และจากช่วงนี้ทางเดินไปเบาะหลังสุดจะเป็นเนินสูงขึ้น
5.      ด้านหลังรถ ด้านข้างและด้านหน้า จะมีที่ตอกกระจกติดกับเพดานรถ เอาไว้ทำลายกระจกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
6.      รถออกนอกเมืองจะมีทางขึ้น ลงแค่ด้านหน้าคนขับเท่านั้น แต่รถในเมืองจะมีกลางตัวรถอีกที่หนึ่ง แต่เอาไว้สำหรับลงเท่านั้น ห้ามขึ้นตรงกลางรถ
7.      รถจะไปจอดตามป้ายต่างๆค่อนข้างตรงเวลา
8.     เป็นรถแอร์ทุกคันไม่มีหน้าต่าง
พอรถผ่านสนามกีฬา ทำให้นึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนวานมีเด็กไปเล่นกีฬากันทั้ง 2 สนาม
เปิดไฟสว่างไปทั่ว วันนี้ก็เช่นกัน ตอนกลับเด็กๆเล่นรักบี้กัน มีรถจอดเยอะมาก
          ข้างทางบริเวณที่ก่อสร้าง ด้านข้างที่เป็นเนินเหมือนกับเอาหินสี่เหลี่ยมมาวางเรียงซ้อนกันเหมือนกับจะเป็นกำแพงกันดิน และเสาไฟฟ้าก็เหมอนกัน เอาต้นไม้มาทำ
          วันนี้รถเยอะอาจจะเป็นเพราะโรงเรียนเปิดเรียนแล้วก็ได้ ถึงอย่างไรรถก็ไปจอดที่ป้ายตรงเวลา
          ขี้เกียจเดินไปโรงเรียน เลยขึ้นรถเมล์ต่อ ไหนๆหลวงเสียตังค์ซื้อตั๋วเดือนให้เราแล้ว ต้องใช้ให้คุ้ม
          ถึงโรงเรียนยังไม่มีใครมาเลย เลยนั่งข้างประตูด้านข้างพยายามส่งอีเมล์ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเน็ตช้ามาก เลยเปิด msn ปรากฏว่าเปี๊ยก on อยู่แล้วเลยคุยกันสักครู่ ยายแจ๋นก็มาคุยด้วย พอดีน้องๆมาถึงขอเช็คอีเมล์กันเป็นแถว เลยบอกเปี๊ยกว่าเดี๋ยวจะโทรไปหา สรุปว่าพยายามส่งอีเมล์นานถึงชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่สำเร็จ
          ออกมาเจออาดุลย์เลยชวนกันไปโทรศัพท์ วันนี้ตัดสินใจโทรเข้าบ้านได้คุยกันสมใจทั้งแม่และลูก แล้วโทรไปหาโกวา ก็สมใจอีก แต่พอโทรไปหาคนอื่นอีก กลับไม่สำเร็จ อาจจะเป็นเพราะโทรเข้ามือถือมั้ง
          บางคนบอกว่าโทรเข้ามือถือไม่ต้องกด 0 ตัวหน้า แต่เราโทรหาเปี๊ยกก็ติดนะ และโทรหาคนอื่นอีกก็ติดอีก แต่ติดยาก สงสัยว่าพรุ่งนี้คงต้องลองโทรใหม่โดยตัด 0 ตัวหน้าทิ้ง
          ถึงโรงเรียนได้เวลาเรียนพอดี วันนี้ Lindy ทบทวนเรื่อง Developing Reading Skill อธิบายขั้นตอนอีกครั้ง แต่ตอนนี้เจาะลึกลงกว่าเก่า โดยกำหนดเวลาการจัดกิจกรรม ความเหมาะสมของกิจกรรม โดยขอดู Lesson Plan ที่พวกเราทำไว้ แล้ววิจารณ์ ให้ข้อคิดและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์มากมาย ที่สำคัญคือ การถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่องต้องเรียงตามลำดับเนื้อเรื่องด้วย ก่อนให้เด็กทำกิจกรรมต้องยกตัวอย่างก่อน และที่สำคัญต้องบอกจุดมุ่งหมายของการจัดกิจกรรมด้วย
          ตอนพักกลางวัน อาดุลย์กับน้องไหวชวนไปทานอาหารร้านชาวมาเลเซีย โดยสั่งไข่เจียว 1 จาน ต้มยำไก่ 1 ถ้วย ข้าว 4 จาน วันนี้เป็นวันแรกตั้งแต่มาจากเมืองไทยที่กินข้าวได้อร่อยที่สุด ค่าอาหารทั้งหมด 18.80 ดอล หารกันแล้วคนละ 4 ดอลกว่าๆเอง
          แต่พอเรียกเขามาเช็คบิลนะ เขามาเก็บจานชามไปเท่านั้น เวลาจ่ายเงินต้องไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ แปลกนะ
          แยกกันที่หน้าร้านโดยที่อาดุลย์กับน้องไหวไปทางหนึ่ง เรากับอานนท์ไปอีกทางหนึ่ง เราชวนกันไปห้าง Coles ว่าจะไปหาน้ำพริกเผาแม่ประนอมกิน แต่ก็ไม่มี
          ห้าง Coles ก็คล้ายกับห้างบิ๊กซีหรือโลตัสในบ้านเรา แต่ที่นี่จะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่มีอุปกรณ์ไฟฟ้านิดหน่อย ส่วนมากจะเป็นของกินไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของที่แพ็คสำเร็จรูป หรืออุปกรณ์การประกอบอาหารต่างๆ ผักและผลไม้ก็มีเยอะพอสมควร
          ตอนบ่าย Lindy ทบทวนหลักการสอนอีกครั้งและให้แต่ละกลุ่มออกไปนำเสนอแผนการสอนของตน รวมทั้งสาธิตการสอนในขั้นต่างๆที่เตรียมมา เราเป็นกลุ่มแรกเลย ก็ได้เฮกันพอสมควร
          พอเข้ามานั่งพี่เบิ้มก็ขอเช็คอีเมล เช็คเสร็จจะส่งอีเมลแต่ก็ส่งไม่ได้เพราะแบตหมดพอดี
          หลังจากทุกกลุ่มไปสาธิตการสอนเสร็จ Lindy ก็ให้แต่ละคนเข้ากลุ่ม และคุยกันเกี่ยวกับการไป Observe การสอนของครูที่นี่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (ที่เราไปกับสมพร) และอภิปรายตามหัวข้อที่ Lindy จดลงบนกระดาน
          จากนั้น Lindy จะถามความเห็นของพวกเราโดยเรียงตามข้อบนกระดานให้แต่ละกลุ่มตอบ  โดยที่ Lindy จะอธิบายเพิ่มเติมด้วย
          สุดท้าย Lindy เขียนบนกระดาน
          The best thing ? กับ What would not work in your classroom ? แล้วถามครูไทยเช่นเดิม
          วันนี้เลิกเรียนก่อนเวลา 25 นาที เรา 3 คนจึงรีบกลับ เพราะจะไปเดินห้างกันที่ Browns Plains
          Grand Plaza เป็นอาคารขนาดใหญ่มากกกก ภายในนอกจากจะเป็น Food Centre แล้ว ยังมีห้างขนาดใหญ่อีก 5-6 ห้าง ไม่ว่าจะเป็น Woolworths, Coles, Big W, K-mart, Target และ…… แล้ว ยังมีโรงหนังภายในด้วย อาคารนี้เป็นอาคารชั้นเดียว
          เดินดูห้าง Big W ก็เหมือนๆกับห้าง Central ที่บ้านเรา แต่ถ้าเปรียบเทียบราคาแล้ว จะแพงกว่ามาก พอเดินออกมาก็ต้องเอา Backpack ให้พนักงานตรวจอีก
          เดินไปคอย อานนท์ ที่หน้าห้าง Woolworths ที่บริเวณที่เขาขายบุหรี่ ไม่ได้ไปซื้อเพราะเลิกแล้ว แต่ไปดูราคา เห็นราคาบุหรี่ที่นี่แล้วบอกได้เลยว่า พวกขี้ยา ตายลูกเดียว เพราะบุหรี่แพงมาก ที่ถูกที่สุดคือ ซองละ 10 ดอล และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม โรบินจึงสูบยาเส้น
          ออกมากับอานนท์ก็ไม่เห็นอาดุลย์ หรือว่ากลับไปก่อน รอจนรถเราออกคอยไม่ได้แล้วเดี๋ยวตกรถ
          อาหารเย็นวันนี้ ข้าวสวยราดน้ำหวานๆสีแดงๆคล้ายๆน้ำราดข้าวหมูแดง มีไข่ดาว 1 ฟอง และปลาทะเลต้ม 1 ชิ้น พอทานได้นะ   

------------------------------------------------------------------


































ไม่มีความคิดเห็น: