วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Flying to Brisbane 1



Going to Australia.
4-5 เมย 51
อู๋ไปรับที่บ้านประมาณ 5 ทุ่มของวันที่ 4 เมย. แล้วไปรับจี๊ปที่บ้านนา ตั้งใจว่าจะไปกราบลาคุณแม่ก่อนไป แต่ท่านหลับก่อน ผิดหวังมาก ถึงบ้านโตเที่ยงคืนกว่า
          ปุกลงมาต้อนรับ แล้วให้นอนที่ห้องนอนใหญ่ของปุกกับโต ปุกกับโตไปนอนห้องเล็ก โตเพิ่งออกเวรกลับมาตอน 3 ทุ่ม ตอนนี้นอนหลับอยู่
          ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตี 3 ครึ่ง กว่าจะได้นอนก็ ตี 1 กว่าแล้ว
          ตื่นมาตอนนาฬิกาปลุก อาบน้ำ แต่งตัว เก็บของลงมาข้างล่างพบโตกำลังคอยอยู่แล้ว ปุกเตรียมกาแฟไว้
          กว่าจะได้ออกจากบ้านโตก็ประมาณตี 4 ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ ตี 4:40 โตบอกว่าตอนเช้าๆแบบนี้ ที่นี่จะเหมือนกับหมอชิต เพราะคนจะทยอยกันมาเรื่อยๆเพราะเครื่องที่จะไปยุโรป อเมริกา จะเช็คผู้โดยสารเวลาประมาณนี้
ก่อนขึ้นไปอาคารผู้โดยสารเพื่อไปพบเพื่อนตามที่นัดหมายกัน ก็ไปแลกตังค์เป็นดอลล่าร์ออสเตรเลียก่อน โดยที่วันนี้อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ 29.22 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์
ไปถึงเห็นเพื่อนๆหลายคนรออยู่แล้ว สมพร ประธานกลุ่มเช็คชื่อ แล้วให้ไปถ่ายรูปได้ก่อน  ช่วงนี้เจ๊ใหญ่โทรไปหาแล้วอวยพรให้เป็นอย่างดี (เจ๊คงภูมิใจมากไม่งั้นคงไม่จัดงานเลี้ยงให้ก่อนหน้านี้หรอก) สักครู่สมพรเรียกให้ไปรับพาสสปอร์ท ตั๋วและกระเป๋าเอกสาร กรอกเอกสารขาออก สักครู่ตึ๋งไปถึง ก็ถ่ายรูปกับตึง คุยกันสักพักตึ๋งก็ต้องรีบกลับเพราะกลัวรถจะโดนลาก
ไปเข้าคิวเอากระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบไปลงทะเบียนแล้วส่งขึ้นเครื่อง ออกมาโตมาหาแล้วยื่นแบ็งค์ออสเตรเลียให้ 200 ดอลล่าร์บอกว่าให้เป็นค่าแฮมเบอร์เกอร์
แล้วโตพาไปต่อแถวเพื่อตรวจเอกสารก่อนขึ้นเครื่อง ก่อนจะเข้าไปในบริเวณ จี๊ปมากอด ตามด้วยแจ๊ป แต่เปี๊ยกไม่กล้ามากอด อิอิอิ
พิธีการเสร็จก่อนคนอื่น คอยสักครู่เพื่อนๆก็ทยอยกันเข้ามา ไปรวมพลกันด้านใน ถ่ายรูปกัน 2-3 รูป พอมากันครบก็เดินไปทางด้านหัวพญานาค ประตู C1
กว่าจะได้ขึ้นเครื่องต้องผ่านด่านเช็คตั๋วและอุปกรณ์ที่นำไปด้วยหลายด่านมาก ในขณะที่นั่งคอยเวลาก็โทรศัพท์ไปคุยกับจี๊ปและแจ๊ป แต่ไม่ได้คุยกับเปี๊ยก เพราะเปี๊ยก Zzzzzz
ขึ้นเครื่องประมาณ 8:00 . ก่อนเข้าไปข้างในเครื่องมีหนังสือให้เลือกหยิบไปอ่านมากมาย เพื่อนๆหลายคนหยิบแมกกาซีนต่างประเทศเพราะเขาเก่งๆกันแล้ว แต่ครูมณเฑียรหยิบ อิอิอิ ไทยรัฐ
ได้ที่นั่ง K49 โชคดีที่ได้ที่นั่งติดหน้าต่าง แต่โชคไม่ดีตรงที่เป็นที่นั่งตรงปีกเครื่องบิน มองลงไปข้างล่างไม่ค่อยเห็นเพราะปีกมันบัง ถัดจากเราเป็นน้องศิจากกทม และน้องต้อยจากเชียงใหม่ ด้านหน้าเป็นอาดุลย์จากสตูล และด้านหลังเป็นน้องหญิงจาก…..จากไหนหว่า
ระหว่างที่รอเวลาก็โทรไปหาโกวาเล่าอะไรๆบางอย่างให้โกฟัง โกก็ให้กำลังใจและให้ภูมิใจในความเป็นลูกโกตันและแม่แสง
โทรไปหาแก๊ปเพราะอยากคุยกับคีน ใจจริงอยากจับจู๋มัน แต่แก๊ปบอกเอาไว้กลับมาก่อนแล้วกัน เจ้าคีนเสร็จก๋งเทียนแน่ อิอิอิ
ด้านหลังของเบาะอาดุลย์ คือด้านหน้าเราจะมีจอมอนิเตอร์ระบบสัมผัสให้ จะดูหนัง ฟังเพลง ดูข้อมูลการบิน และอื่นๆอีกสารพัดทำได้โดยระบบจิ้มเอาเท่านั้น ถ้าไม่จิ้มก็กดรีโมทได้ อยู่ด้านข้างที่เท้าแขนด้านขวา สักครู่พนักงานสาวสวยก็นำหูฟังมาแจก ลองเสียบฟังดูผ่านๆเท่านั้น
เครื่องบินเทคอ๊อฟจากรันเวย์ตอน 8:30. เราพยายามมองดูข้างล่างแต่ก็มองได้ไม่ค่อยชัดเพราะปีกเครื่องบินบัง แต่พอมองออก มันก็เหมือนกับที่เราเล่น Google Earth จากคอมพ์นั่นเอง
หลับมั่ง ตื่นมั่ง แต่หลับมากกว่าตื่นนะ อาหารที่เสิร์ฟ ชุดแรกจะเป็นเครื่องดื่มกับขนมปัง เสิร์ฟตอน 10 โมงกว่าๆ อาหารกลางวันจะเสิร์ฟตอน บ่าย 2 โดยประมาณ เราเลือกข้าวฉู่ฉี่กุ้ง (ยังเบื่อกุ้งอยู่นะ เพราะเพิ่งกลับจากภูเก็ต) ของหวานมีตะโก้สาคู โยเกิร์ต ผลไม้ 2-3 อย่าง
ถึงซิดนีย์ประมาณ 3 ทุ่มตามเวลาของออสเตรเลีย คิดเป็นเวลาในเมืองไทยก็ 6 โมงเย็น เวลาที่ออสเตรเลียจะเร็วกว่าเมืองไทย 3 ชั่วโมง
เราต้องขนสัมภาระลงให้หมดเพื่อความปลอดภัยของเขา ต้องโดนตรวจทุกอย่างอีกครั้ง แล้วไปนั่งรอเวลาขึ้นเครื่องเพื่อจะต่อไปยังบริสเบน
ขึ้นเครื่องเที่ยวนี้ไม่หลับแล้ว รอแต่เวลาว่าเมื่อไหร่จะถึง นั่งเช็คข้อมูลการบินตลอด
ถึงบริสเบนเกือบ 5 ทุ่ม กว่าจะผ่านขั้นตอนต่างๆมาได้ ต้องใช้เวลานานพอควร แล้วก็ต้องไปรอสัมภาระที่วิ่งมาตามราง ช่วยกันสังเกตกระเป๋าที่มีโบว์สีเขียวอ่อนผูก ถ้าเจอของใครไม่รู้ยกออกมาก่อน
เรายกสัมภาระของอานนท์มาใส่รถเข็นรอเจ้าของมาเอาไป แต่ก็ไม่มาสักที สักครู่ก็เห็นอานนท์คุยกับเจ้าหน้าที่ อานนท์กรอกข้อมูลของที่นำเข้าผิดช่องเลยต้องเสียเวลาตรงนี้ สุดท้ายก็เรียบร้อยดี
ด่านสุดท้ายนี่ช้ามาก เพราะจาก 4 แถว ต้องรวมเหลือเพียงแถวเดียว เราบอกอาดุลย์กับอานนท์ว่า ให้พวกเราอยู่ท้ายสุด คอยเก็บตกนะ คอยดูแลคนอื่นๆด้วย
ผ่านด่านออกมาซ้ายมือ เห็นสาวๆไปรวมกลุ่มกันอยู่ พร้อมสัมภาระ ด้านหน้าค่อนไปทางซ้าย เห็นฝรั่ง 2 คนถือป้ายมีข้อความว่า EF เราสามคนจึงเดินไปหา เขาชี้ให้ไปหาคนใส่เสื้อเหลือง แล้วเราพบผู้ประสานงานคนไทยจากกระทรวงคอยเช็คชื่อแล้วแจกตั๋วเดือนของรถเมล์ จากนั้นฝรั่งทั้ง 4 คนก็เรียกชื่อพวกเราทีละคนให้ขนสัมภาระตามเขาไป
รถเราไปกัน 6 คน สาวๆ 3 คนแล้วเรา อาดุลย์กับอานนท์ เราสามคนนั่งด้านหลัง ที่จำได้นะ น้องหญิงนั่งหน้าเรา อีก 2 คนจำไม่ได้
รถคันนี้ติดระบบ GPS หน้ารถจะมีจอคอยบอกเส้นทางว่าจะไปทางไหน ไกลแค่ไหน จะเลี้ยวตรงไหน แค่เรากดถนนที่เราจะไป แล้วก็กดบ้านเลขที่ เท่านี้เอง ระบบ GPS ผ่านดาวเทียมจะบอกทางเราอย่างละเอียด
ส่งสาวๆก่อน แล้วจึงอาดุลย์กับอานนท์ ทั้ง 2 คนนี้พักบ้านเดียวกัน ก่อนออกจากบ้านอาดุลย์เราดูคนขับกดแป้นหาทางไปบ้าน Host ของเรา เห็นระยะทาง 1.5 กม. อืมมม ไม่ไกลกับอาดุลย์นะ
ไปถึง ตีหนึ่งกว่าๆ เจ้าของบ้านรออยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาอะไร Mrs Robyn พาเราไปห้องพัก เป็นห้องขนาด 2.5 x 2.5 เตียงเดี่ยว มีลิ้นชักให้ 2 ที่ หัวนอนมีลิ้นชัก 3 ชั้น ด้านล่างลิ้นชัก 4 ชั้นจะกว้างกว่ามาก ด้านซ้ายมีตู้ใส่ของโชว์ 1 หลัง และตู้ทึบใส่ของอีก 1 หลัง ตู้ 2 ใบนี้เราไม่มีสิทธิ์ใช้
พอเธอจะออกไปเราบอกให้เธอรอก่อนเพราะเรามีของฝากจะให้เธอ พอให้เธอแล้วก็บอกเธอว่าเพลียมาก และก็ง่วงมากด้วยขอตัวนอนก่อน
เปลี่ยนกางเกงกับเสื้อแล้วก็ล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนแรง เพื่อเก็บแรงเอาไว้ผจญภัยในวันต่อไปซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรในดินแดนที่ห่างไกลจากบ้านและจาก………เมีย
---------------------------------------------------------------------------------------




ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

 กับเพื่อนๆที่ร่วมชะตากรรมในต่างแดน

บนเครื่องบิน เที่ยวบิน TG 991


Homestay ที่ไปอยู่ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: