วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Flying to Brisbane 6



Going to Brisbane.
11 เม.. 2551
          เมื่อวานลืมเล่าไปอย่างหนึ่งว่า พอกลับถึงบ้านเห็นโบรชัวร์โฆษณาอยู่บนโต๊ะ 2 ชุด เพราะวันก่อนเคยบอกกับ Robyn ว่าอยากเห็นโบรชัวร์สินค้า เพราะอยากเปรียบราคาสินค้ากับในเมืองไทย เธอบอกว่าส่วนมากจะทิ้งไปหมดเพราะจะเป็นเมล์ขยะ ถ้าสนใจวันหลังจะเก็บไว้ให้ เมื่อคืนเลยเปิดดู เป็นโบรชัวร์ของห้าง K-mart ซึ่งอยู่ที่ Browns Plains แถว Grand Plaza
          ในโบรชัวร์โฆษณา DVD มีหนังมากมายให้เลือก มีทั้งถูกทั้งแพง โปรโมชั่นมากมาย เช่น เรื่องละ 6.99  ซื้อ 4 เรื่อง 20 ดอล  หรือไม่ก็ เรื่องละ 12.99  ซื้อ 3 เรื่อง 30 ดอล เป็นต้น หนังที่ขายมี่ทั้งหนังเก่าสมัย Steve McQueen เรื่อง The Great Escape. 12.99 ดอล หนังใหม่ 27.79 ดอล การ์ตูน 8.99, 12,99, 15,99 (สงสัยเลียนแบบราคามาจากรองเท้าบาจา) คิดเป็นเงินไทยก็คูณ 30 นะ เห็นราคาอย่างนี้แล้ว ไปซื้อหนังก๊อปที่บ้านเราดีกว่า เรื่องหนึ่งไม่เกิน 50 บาทพร้อมปก
          ในโบรชัวร์ยังมีโทรศัพท์มือถือขายด้วย แต่ที่น่าสนใจคือ iPod ของ แอ๊ปเปิ้ล แบบที่โกวาใช้ ที่นี่มี 2 ราคา คือ 16 GB ราคา 489 ดอล (14,670 บาท) 8 GB ราคา 389 ดอล (11,670 บาท) ราคาน่าสนใจมาก คิดว่าก่อนตัดสินใจ จะโทรไปถามโกวาก่อน
          มือถือ Motolora ก็น่าสนใจเหมือนกัน ราคาแค่ 89 ดอล (2,670 บาท) น่าจะซื้อไปให้เปี๊ยก แต่ไม่แน่ใจเรื่องการรับส่ง sms ว่าถ้าจะให้เป็นภาษาไทย ต้องทำยังไงมั่งและจะทำได้ไหม เท่านั้น
          กลับมาเรื่องของวันนี้ พอตื่นขึ้นมา ก็ออกไปคุยกับ Robyn แล้วเธอให้ไปปลุก Rafael เพื่อจะได้ไปโรงเรียนกับเรา Rafael ตื่นมาก็เข้าห้องอาบน้ำ เราก็คุยกับ Robyn เพื่อคอยเวลาใช้ห้องน้ำ เราถามเธอเรื่องเศษไม้ที่เขาย่อยเป็นแผ่นเล็กๆ เธอบอกว่ามีบริษัททำด้านนี้ ชาวบริสเบนใช้เพื่อคลุมดินไม่ให้ดินกระเด็นเวลาฝนตก และก็ช่วยอุ้มน้ำตอนรดน้ำเพื่อรักษาความชื้นให้กับดินและต้นไม้ เขาเรียกว่า bark chip เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ
          คุยกันก็แล้ว กินกาแฟก็แล้ว Rafael ยังไม่ออกมาสักที คิดว่าวันนี้ไม่ได้อาบน้ำแน่นอนเพราะ 6 โมง 20 แล้ว ตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ไม่งั้นไปไม่ทันรถแน่
          วันนี้ตอนบ่าย ครู Joleene จะพาไปอาคารรัฐสภาของ รัฐควีนส์แลนด์ ที่อยู่ที่นี่ เลยคิดว่าขอโชว์ความเป็นไทยหน่อย คว้ากางเกงยีนส์มาใส่ พร้อมกับเสื้อม่อฮ่อม เวียงละกอน ออกมาล้างหน้าแปรงฟัน คว้าขนมปัง 2 ชิ้น แล้วออกมาพร้อมกับ Rafael
          เมื่อเช้าถาม Robyn ถึงเรื่องการใส่รองเท้าเข้าบ้าน เธอบอกว่าใส่เข้ามาได้ถ้าไม่เปื้อนโคลน แต่เราก็ไม่กล้านะ ไม่ชินด้วย มันรู้สึกไม่สบายใจถ้าต้องใส่รองเท้าเข้าบ้าน ต้องคว้ารองเท้าไปใส่นอกบ้านทุกครั้ง
          วันนี้ท้องฟ้าสดใส แดดจัด อากาศเย็นกำลังสบาย ไปถึงป้ายรถพบเพื่อนบ้านคนใหม่เลยคุยกับเธอ สักพักเพื่อนบ้านคนเก่าก็มาถึง เราไหว้เธอเช่นเดิม
          ตอนขึ้นรถเราถามคนขับถึงค่าตั๋วคนขับถามว่าไปไหน เราบอก Browns Plains เขาบอก 2.30 ดอล Rafael หยิบแบ็งค์ 50 ส่งให้ คนขับถามถึงแบ็งค์ย่อย เราจึงควักแบ็งค์ 10 ให้แทน
          ไปนั่งด้านใน พอเพื่อนบ้านเห็นตั๋วเธอบอกว่ามันแพง จะไปเปลี่ยนตั๋วให้ สรุปได้ว่าที่นี่ซื้อตัวคันไหนก็ได้ แล้วนั่งรถคันอื่นๆได้ทุกคัน เพียงแค่โชว์ตั๋วเท่านั้น ของ Rafael เปลี่ยนเป็นตั๋วที่ใช้ภายในวันเดียว ราคา 4.50 ดอล จะนั่งไปไหน กี่เที่ยวก็ได้ ภายในวันนี้เท่านั้น
          พา Rafael ไปส่งที่โรงเรียน แนะนำกับ Jasmine และให้คอยเพื่อนร่วมชั้นที่นี่ บอกRafael ว่าวันนี้เลิกเรียนให้คอยที่นี่ 5 โมงเย็นจะมารับกลับ
          เดินออกโรงเรียน วันนี้ตั้งใจจะไปเดินแถวสวนริมน้ำด้านขวามือ พบอัญชลีเลยไปด้วยกัน 2 คน ไปด้วยกันก็ดีอยู่อย่างหนึ่งที่ว่า ผลัดกันถ่ายรูปได้ ไม่ใช่มีแต่วิวอย่างเดียว แต่วันนี้ซวยไปหน่อยเพราะกล้องเริ่มรวนอีกแล้ว สีเริ่มเพี้ยนอีกแล้ว
          ช่วงแรกเป็นสวนสาธารณะ แต่พอเดินเข้าไปอีกหน่อยเป็น Griffith University สวนอยู่ติดกัน ภายในมหาวิทยาลัยร่มรื่นดีมาก อยู่ในสวนด้านนอกมองเห็นการเรียนการสอนด้านในเพราะผนังเขาใช้กระจกกั้น ที่น่าแปลกใจคือห้องหนึ่งมีนักศึกษา 2 คน อีกห้องหนึ่งมี 8 คน ทำไมน้อยจัง แต่บรรยากาศน่าเรียนมาก สงบร่มเย็น
          ด้านหน้าสวนที่อยู่ติดริมน้ำ จะเป็นทางปูนให้ขี่จักรยานได้ มีม้านั่งเป็นระยะๆ มีท่าเรือ 2 ท่าใกล้กัน น้องอัญชวนไปนั่งเรือ แต่เรายังไม่แน่ใจเรื่องเส้นทางการเดินเรือ และเวลาที่ใช้ กลัวว่าจะกลับไปเรียนไม่ทันจึงให้ข้อคิดน้องอัญไว้
          ถัดมาเป็นสระน้ำที่สร้างขึ้นเลียนแบบชายหาดธรรมชาติ สวยมาก มีทรายก้อนหิน น้ำเหมือนไปลงทะเล แถมมีนกคล้ายๆนกกระยางอีกฝูงหนึ่งด้วย เชื่องมาก อีกด้านหนึ่งกำลังสร้างสระใหม่ด้วย
          คิดว่าจะเดินกลับ น้องอัญชวนเดินออกไปอีกด้าน เห็นเขาตั้งเต็นท์ขาวๆ เป็นแถวๆ เดินไปดูเห็นพ่อค้ากำลังเอาของออกมาจัดร้าน สวยมาก น้องอัญขอเขาถ่ายรูปแต่ถูกปฏิเสธ ดูได้ไม่กี่ร้านเองเพราะเขาเพิ่งมาตั้งร้านกัน น้องอัญบอกอยากเข้าไปดูในร้านขายของที่ระลึก เลยชวนกันเข้าไป พอดูราคาสินค้าผ่านๆเท่านั้นก็ตัดสินใจเดินออกมา เพราะมันแพงกว่าที่ The City Mall มาก เช่นเนคไท ที่นี่เส้นละ 24 ดอล ที่นั่น 20 ดอลเอง
          เริ่มเมื่อยขา แต่ก็ต้องทนนะเดินออกมากัน 2 คนตัดถนนเส้นนั้น เข้าทางนี้ คิดว่าร่มที่สุดไม่ต้องตากแดด เพราะวันนี้แดดจัดมาก ไปถึงโรงเรียน 10 โมงกว่านิดๆ เพื่อนๆมากันเยอะแล้ว เขากำลังตกลงกันเรื่องจะไปเที่ยวพรุ่งนี้ เลยบอกว่าเอาไงเอากันเดี๋ยวขอไปโทรศัพท์ก่อน ว่าแล้วก็ไปที่ West End Market ที่เดิม
          เมื่อวานแค้นมาก โทรไปหาใคร ต่อไม่ติดเลย ได้คุยแค่กับเปี๊ยก จี๊ปและแจ๊ป เท่านั้น คนอื่นต่อไม่ได้ บัตรราคา 10 ดอล ก่อนโทรต้องหยอด 50 ดอล ถ้าต่อไม่ติด 3 ครั้ง โดนกินเหรียญเลย เมื่อวานโดนไป 2 ดอล
          วันนี้คิดว่าต่อเข้าบ้านดีกว่าเพราะเมื่อวานต่อไปหาแจ๊ปแล้วติดง่ายมาก แล้วก็เป็นจริงตามที่คิดไว้ ต่อไปบ้านเจ๊แป๋วจึ๊กเดียวติด เจ๊ใหญ่รับสาย เล่าให้เจ๊ฟังว่าพยายามโทรเข้ามือถือหลายๆคน แต่ต่อไม่ติดเลยต้องโทรเข้าบ้าน เจ๊บอกเจ๊ดีใจจนน้ำตาไหล สักครู่ก็ให้คุยกับเจ๊แป๋ว คุยกันประมาณ 15 นาที แล้วก็ต่อไปบ้านโกวา พี่ดอนรับสาย อืมมมมม โทรเข้าบ้านง่ายดีนิ บอกพี่ดอนว่าอยากโทรมาขอบคุณโก ที่แนะนำให้ไปบริสเบน เพราะถ้าสละสิทธิ์ คงเสียดายตายเลย
          วางสายโทรศัพท์ เห็นอาดุลย์โทรอยู่ใกล้ๆ เลยทำสัญญานว่า จะไปเดินดูข้างในนะ เข้าไปเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นขาย Sushi แบบแพ็คสำเร็จ ราคาก็ 5.50 เลยซื้อมา 1 แพ็ค เพราะวันนี้ตอนบ่าย Joleene บอกว่าให้ไปพบกันตอน 13:45 จะได้ไปรัฐสภากัน ไม่อยากเสียเวลาในการไปกินข้าวกลางวัน คิดว่าวันนี้จะนั่งกินข้างถนนแบบลาวตกรถ และจะได้พักผ่อนไปในตัวด้วย
          กลับไปเรียนทันเวลาพอดี วันนี้ Joleene สอนเรื่อง Pronunciation เราฟังรู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง เพราะร่างกายเพลียมาก เช้านี้ทั้งเดินและยืนเกือบ 3 ชั่วโมง เริ่มสัปหงกนิดๆ แต่ Joleene ก็สอนสนุกนะวันนี้ทำให้หายง่วงได้เหมือนกัน
          หมดชั่วโมง Joleene ให้กลุ่ม 1 เข้าห้อง iLab เราเข้าไปทีหลัง ไม่มีที่ว่างอีกแล้ว Joleene จะให้นั่งกับคนอื่น อาดุลย์จะให้ไปนั่งใกล้ๆ แต่เราบอก Joleene ว่าวันนี้เอาโน้ตบุ้คมาด้วย เลยไปนั่งใกล้เครื่อง printer แล้วต่อ wireless เข้าเน็ต ลองเข้า http:\\ilab.ef.com แล้วก็ลองแบบที่ Joleene ให้ลอง แล้วก็รีบเก็บของเพื่อไปทานข้าวกลางวัน เดี๋ยวช้าจะพาคนอื่นเดือดร้อน
          ลงมานั่งกินข้าวริมถนน สาวๆกลุ่มหนึ่งนำโดยคุณครูยาย พี่ประกอบ น้องศิ และคนอื่นๆก็นั่งทานอาหารที่เตรียมมากันที่ม้านั่งริมถนน ตอนนี้ให้น้องศิถ่ายรูปลาวตกรถให้
          พี่ประกอบเล่าให้ฟังว่า คุณครูยายเรียนไม่รู้เรื่องอยากเปลี่ยนโปรแกรม เพราะคอร์สนี้เรียนยาก การบ้านก็เยอะ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดถึงตรงนี้มองดูคุณครูยายที่นั่งใกล้ๆ เห็นเธอน้ำตาไหลนิดๆ เลยต้องปลอบใจว่า เรียนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเครียด รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้มั่งก็ไม่เป็นไร อย่าไปซีเรียสกับมันมากนัก ทำใจให้สบาย พวกเราช่วยกันอยู่แล้ว
          13:40 Joleene มาถึง นับจำนวนพวกเรา เราบอกขาดอาดุลย์กับน้องไหว ตาเราก็สอดส่ายหาทั้ง 2 คนเพราะเป็นห่วง กลัวโดนรายงานอีก รอจน 14:00 . เขารอกันไม่ไหว จึงเริ่มออกเดินกัน
          อาคารรัฐสภาก็อยู่ตรงข้ามกับ Botanic Garden ที่เราไปกับอาดุลย์เมื่อวานนี้ เข้าไปข้างในเขาให้เอาของมีค่าติดตัวไป ส่วน backpack ให้เก็บไว้ในล้อกเก้อร์ ด้านหน้า ก่อนเข้ามีการสแกนของที่เอาเข้าไป พร้อมกับต้องเดินผ่านเครื่องสแกนด้วย บางคนพอเดินผ่าน เครื่องมันร้อง เจ้าหน้าที่ก็เอาอุปกรณ์มาเช็คอีกที จึงรู้ว่าที่เครื่องร้องเพราะนาฬิกานั่นเอง
          เจ้าหน้าที่ที่อธิบายอายุน่าจะประมาณ 58 อธิบายเก่งมาก คล่องมาก แต่เราไม่ค่อยได้ฟัง เพราะมัวแต่ไปหาที่ถ่ายรูปกัน ถ่ายรูปเสร็จก็นั่งพักเพราะเมื่อยขามาก
          อาคารรัฐสภามี 3 ชั้น แต่เราไปกันแค่ 2 ชั้นเท่านั้น ได้เข้าไปดูห้องประชุมรัฐสภาเก่า และใหม่ สุดท้ายหมดเวลาก่อนเพราะเกือบ 4 โมงเย็นแล้ว สมพรเป็นตัวแทนมอบของที่ระลึกให้เจ้าหน้าที่
          ออกมาเราเริ่มหิวเพราะ Sushi ไม่หนักท้องเท่าที่ควร และเราก็เหนื่อยมากด้วย เผอิญด้านตรงข้ามเป็นทางเข้าสวน และมีรถขายของกินด้วย เลยซื้อบะหมี่มา 1 ถ้วย 2.50 ดอล รส curry prawn พ่อค้าเอาน้ำร้อนมาเติมให้ น้ำสงสัยเพิ่งเดือดแน่ๆ เพราะร้อนมาก เรากับอาดุลย์เลยเดินไปนั่งที่ทางเข้าสวน สักครู่น้องศิมาหาและขอเซฟรูปเข้าเครื่องเพราะเมมโมรีจะเต็มแล้ว เราเอาคอมออกมาจัดการต่อกล้องเข้ากับคอม กะจะก๊อปรูปลงเครื่อง แต่โหลดนานมาก็ยังไม่เข้า สุดท้ายนองศิเลยต้องขอถอนทัพ
          กินบะหมี่ไปเกือบหมดเพราะเริ่มอิ่ม ถ้าถามว่าอร่อยไหม บอกได้คำเดียวว่า มาม่าที่บ้านเราอร่อยกว่าเยอะ น้องศิแซวว่า ลุงถ้วยละ 75 บาทนะกินให้คุ้มหน่อย แต่มันไม่ไหวแล้วนี่นา
          เดินกลับไปกับอาดุลย์ เมื่อยขามากแต่ก็ต้องทน บอกอาดุลย์ว่าเดี๋ยวต้องไปรับ Rafael ที่โรงเรียนก่อน ฝากกระเป๋าโน้ตบุ้คกับอาดุลย์ แล้วไปรอรถที่ป้าย
          ไปถึงเห็น Rafael นั่งกระจ๋องหงองหน้าโรงเรียน เลยไปสะกิดแล้วเดินกลับไปที่ท่ารถ
          พบสมพรกับน้องอูมที่นั่นเลยทวนนัดหมายกันอีกครั้ง พรุ่งนี้ 9 โมงตรงพบกันที่หน้า Museum เพื่อไปเที่ยวที่ Lone Pine
          นั่งรถ 150 กลับกัน วันนี้อาดุลย์โม้กับ Rafael ตลอดทาง พอ rafael ถามถึงมวยไทย เรากำลังเคลิ้มๆจะหลับอยู่แล้ว อาดุลย์ก็สะกิดแล้วบอกว่าถ้าอยากเรียนมวยไทย ต้องมาเรียนกับมณเฑียร เราเลยต้องตามน้ำไปว่า มวยไทยที่เราเรียนมาไม่เหมือนในโทรทัศน์ เพราะของเราเป็นมวยโบราณ อันตรายมากกว่า Rafael พูดถึงดาราที่ชื่อ แวนแดม บอกว่าเก่งมวยไทย เราเลยบอกว่า ที่แวนแดมใช้ ไม่ใช่มวยไทย แต่เป็นกังฟู แวนแดมเตะไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ทำร้ายใครไม่ได้หรอก แต่ถ้าเป็นมวยไทย เราจะเตะชายโครงเพราะเป็นจุดอ่อนของคน และที่หนักที่สุดคือ ก้านคอ ถ้าโดนเตะก้านคอทีเดียว น้อคเลย
          เตือน Rafael ว่าอย่าไปมีเรื่องกับคนไทย เพราะมวยไทยอันตรายมาก ไม่ว่าจะเป็นหมัด เท้า เข่า ศอก ทำอันตรายได้หมด ดูท่าทาง Rafael อยากเรียนมวยไทยมาก
          กลับมาถึงบ้านทุ่มกว่านิดๆ ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ไขกุญแจเข้าบ้าน เปิดตู้เย็นเอาอาหารของ Rafael มาเข้าเตาไมโครเวฟ แล้วของเรา ของเรา ของเรา อืมมมมม ปลาจืดๆอีกแล้ว แตงกวาต้ม อีกแล้ว แครอทต้ม อีกแล้ว แต่โชคดีที่ไม่มีผักเปรี้ยวๆ วันนี้เลยไม่ทรมานเท่าไหร่
          เสียงโทรศัพท์ดัง เราไม่กล้ารับ  สักครู่ดังอีก ได้ยินว่า Montien, pick up the phone. แล้วเงียบไป เราก็ไม่กล้ารับอีก สักพักดังอีก Montien, pick up the phone, please. เสียงสั่นๆยังไงไม่รู้ เลยไปรับโทรศัพท์ เสียงแอนถามเรื่องอาหาร บอกว่าอาหารอยู่ในตู้เย็น เราบอกว่าเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว เธอโล่งใจ แล้วบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะกลับ
          แต่คนที่กลับก่อนคือ Robyn เธอถามเรื่องโทรศัพท์ และเรื่องอาหารการกิน พอเราเล่าให้เธอฟังดูเธอโล่งอกนะ
          วันนี้เลยไม่มีเรื่องอะไรคุยกับ Robyn เลย คงไม่เป็นไร เอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่า เริ่มง่วงอีกแล้ว ห้าทุ่มพอดี ไปนอนดีกว่านะนะนะนะ


-----------------------------------------------------------------------------------------

 ชายหาดจำลองที่ South Bank

 บริเวณตลาดนัด South Bank

 มื้อกลางวันกับ Sushi


 อาคารรัฐสภาของควีนสแลนด์

ไม่มีความคิดเห็น: