วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Flying to Brisbane 5



Going to Brisbane.
10 เม.. 2551
          สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงมือถือปลุก ก็เวลาเดิม
ดื่มกาแฟกับขนมปังทาแยม 2 ชิ้น โรบินบอกว่าวันนี้จะมีชาวบราซิลมาพักด้วยชื่อ   ราฟาเอล และวันนี้เธอจะออกไปข้างนอก อาจจะกลับมาทันหรือไม่ทัน ไม่แน่ แต่จะเตรียมอาหารไว้ให้ แล้วก็สอนให้เราใช้เตาไมโครเวฟ ถ้าเธอยังไม่มา และราฟาเอลมาก่อนก็ฝาก   ดูแลด้วย และบอกเราอย่าลืมเอากุญแจไปด้วย
ไปถึงป้ายรถ เพื่อนบ้านรออยู่แล้ว ไหว้เธอและทักทายเธอเหมือนเดิม สักครู่รถก็มา
ตอนที่นั่งรถเมล์ทุกครั้งจะรู้สึกอึดอัดใจมากเวลาที่เห็นผู้หญิงขึ้นรถ เราไม่รู้ว่าจะลุกให้เธอนั่งดีไหม มาคิดอีกที เราก็แก่แล้วนะ ส่วนมากผู้หญิงที่ขึ้นมาก็อยู่ในวัยเรียนและวัยทำงาน แต่ก็หายอึดอัดใจเมื่อมีชาย หญิง 2 คนขึ้นมาบนรถ โดยผู้ชายขึ้นมาก่อนและพอเห็นที่ว่าง 1 ที่เขาก็นั่งลงโดยไม่สนใจผู้หญิงเลย อ้อ…..สังคมเขาเป็นแบบนี้เอง
          นั่งรถไป ตาก็มองออกไปข้างนอก สังเกตดูสิ่งต่างๆรอบๆตัว บ้านเรือนที่นี่ ถ้าเป็นบ้านชั้นเดียวก็จะเป็นชั้นเดียวตลอด ถ้าเป็น 2 ชั้น ก็จะ 2 ชั้นตลอด จะอยู่เป็นช่วงๆ ถนนก็ 2 เลน มีรถเมล์ผ่าน หน้าบ้านทุกที่จะมีสนามหญ้าที่ตัดไว้อย่างดี ตู้ไปรษณีย์จะอยู่บนเสาเล็กๆที่หน้าบ้าน บางบ้านจะใช้ถังนมเล็กๆทำเป็นตู้ไปรษณีย์ บางบ้านทำเหมือนบ้านรังนก และด้านหน้าจะติดเลขที่บ้านไว้
          สิ่งใดที่สร้างขึ้นใหม่ เขาจะทำท่อระบายน้ำพร้อมสรรพ และที่ใดที่ปลูกไม้ใหญ่ ไม้เล็ก หรือสวนหย่อม เขาจะย่อยไม้ให้เป็นแผ่นเล็กๆ โรยไว้บนสุดคล้ายๆกับให้เป็นปุ๋ย และให้อุ้มน้ำไปในตัว ในเมือง นอกเมืองจะเหมือนกันหมด
          พอลงรถที่ Cultural Centre ตัดสินใจเลี้ยวขวา ขอเดินไปดูบ้านเรือนแถวนี้บ้าง ผ่าน Museum ที่ด้านข้างมีไดโนเสาร์ 2 ตัว เลยจัดการถ่ายรูปซะ เห็นไดโนเสาร์แล้วนึกถึงตอนที่พาจี๊ปไปดูที่เซ็นทรัลบางนา
          เดินไปถึงสะพาน William Jolly ข้ามสะพานไปฝั่งตรงข้าม แต่ก่อนข้าม มองลงไปด้านล่างเห็นคนกำลังจัดการสวนข้างล่างริมน้ำ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าที่ริมน้ำจะเป็นสวนหย่อมหรือสวนสาธารณะยาวตลอด
          ถ่ายรูปไปเป็นช่วงๆ ด้านขวามือคือสะพาน Victoria ที่เราผ่านไปเมื่อวาน แต่ด้านซ้ายมือเห็นมีอีกสะพาน สักครู่ก็เห็นรถไฟแล่นผ่านไปมาบนสะพานนั้น ตั้งใจว่าเดี๋ยวจะไปเดินบนสะพานนั้นบ้าง
          พอไปถึง หาทางขึ้นไม่เจอจึงรู้ว่ามันเป็นสะพานรถไฟ จึงเดินกลับทางเดิม
          ข้ามสะพานลงมาเลี้ยวขวา เห็นป้ายอะไรที่น่าสนใจก็ถ่ายรูปไว้ ชาวบ้านที่ผ่านไปมาคงงงนะที่อยู่ๆมีกะเหรี่ยงที่ไหนไม่รู้มาถ่ายรูปมั่วไปหมด ก็ที่บ้านเราไม่มีอย่างนี้นี่หว่า
          ที่แปลกใจนะ สงสัยตึกที่เห็นนี่จะเป็นแมนชั่นหรือที่ตั้งบริษัท เพราะที่ทางเท้าเข้าอาคารด้านนอก จะมีตู้ไปรษณีย์ใส่กุญแจไว้ประมาณ 10 ตู้ ทำไมไม่ไปติดที่ตึกนะ
          1 ชั่วโมงพอดีที่เป็นพระยาน้อยชมตลาด ถึงโรงเรียน 9 โมงตรง พบสาวๆรวมกลุ่มกันอยู่แล้ว เราเดินไปหาที่ว่าง แล้วเอาคอมพ์ออกมาต่อเน็ต สักครู่เปี๊ยกก็ออน msn คุยกันสักครู่ก็ต้องเลิกเพราะต้องส่งไฟล์ Diary ไปให้เปี๊ยกอ่าน และคนอื่นๆก็คอยคิวส่งอีเมล์ บอกเปี๊ยกว่าเดี๋ยวจะโทรไปหา
          ออกไปกับอาดุลย์ที่ตู้โทรศัพท์ที่เดิม ให้อาดุลย์โทรที่ตู้ เราเข้าไปในอาคาร Supermarket แล้วโทรหาเปี๊ยก คุยกับจี๊ป คุยเสร็จต่อหาโกวา เจ๊แป๋ว เจ๊ใหญ่ ไอ้ตึ๋ง ยายแจ๋น แต่ไม่ติด โดนกินเหรียญไป 2 ดอลวันนี้
          พูดถึงโทรศัพท์กลับเมืองไทย ต้องซื้อบัตร Hello Asia ราคา 10 ดอล (300 บาท) โทรได้ 700 นาที เวลาจะต่อโทรศัพท์ต้องหยอดเหรียญ 50 เซนต์ กดรหัสเมืองบริสเบน 8 ตัว กดเลือกภาษา 1 ตัว กดรหัสบัตร 12 ตัว ตามด้วยเครื่องหมาย # รหัสทางไกลอีก 4 ตัว รหัสประเทศ 2 ตัว ตามด้วยหมายเลขปลายทางอีก 8-9 ตัว และ # (รวมทั้งหมด 37-38 ตัว) แล้วเครื่องจะบอกจำนวนเงินและเวลาที่เหลือ แล้วก็รอ รอ รอ รอ และรอ ถ้าติดก็โชคดี ถ้าไม่ติดก็ต่อใหม่ แต่ต่อได้ 3 ครั้งถ้าไม่สำเร็จก็โดนกินเหรียญ ถ้าสำเร็จก็คุยกันไปพอเลิกคุยและจะคุยกับหมายเลขอื่นต่อ ก็กด #0# ตามด้วยรหัสทางไกล 4 ตัว รหัสประเทศ 2 ตัว และหมายเลขปลายทาง ลงท้าด้วย # เช่นเดิม
          อาดุลย์มาเมื่อไหร่ไม่รู้ มาโทรที่ตู้ข้างๆ เราเลยเดินไปร้านใกล้ๆกัน ในนี้ขายของหลายอย่างมีทั้งของใช้ ของที่ระลึก ท้อฟฟี่ แต่ที่สะดุดตาคือเครื่องอัดขยายภาพของฟูจิ ใส่การ์ดได้ทุกชนิด handy drive หรือแผ่น CD ราคาอัดขยายภาพขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวน ถ้าน้อยก็แพง ถ้ามากก็ถูก สมมุติว่า อัดภาพขนาด 4x6 ใบเดียว อิอิอิ 1.90 ดอล เท่าไหร่เอา 30 คูณนะ
          เดินดูร้านอื่นๆอีกหน่อยก็ชวนกันกลับโรงเรียน
          ระหว่างเดินกลับก็ให้อาดุลย์ถ่ายรูปให้ โดยอธิบายการจัดภาพให้ จะได้ถ่ายรูปได้ถูกใจหน่อย ถ้าไม่อธิบายเดี๋ยวผิดหวังอีก
          ถึงโรงเรียน ถามอานนท์ว่าแบตคอมพ์หมดหรือยัง อานนท์บอกเหลืออีกครึ่งหนึ่ง อืมมมมม ยังไหว ยังไหว
          เอาคอมพ์เปิดดูรูปเก่าๆที่ถ่ายตั้งแต่วันแรกให้อาดุลย์ดู อาดุลย์บอกเนเราถ่ายรูปสิ่งต่างๆแล้วก็ได้ความคิด คืออยากถ่ายรูปตามเราทุกอย่าง
          เข้าเรียน 11:15 . Joleene ให้ออกไปสาธิตการสอน Speaking วันนี้น้องปูเป็นครู พวกเราเป็นนักเรียน ก็สนุกกันเหมือนเดิม
          จากนั้นก็เป็นการแบ่งกลุ่มอภิปรายเรื่องการฟัง แล้วพัก
          ไปร้านเวียตนามเหมือนเดิม วันนี้กินข้าวมัสมั่นไก่กับไก่ป๊อปชุบแป้งผัดซ้อส ราคา 5.20 ดอล กินไม่หมดเพราะเลี่ยน
          เข้าไปเรียน Teaching Listening Techniques
          เลิกเรียนตอน 3:35 . ส่วนกลุ่ม 2 ต้องอยู่ต่อ
          สมพรกับสาวๆบอกว่าจะไป Botanic Garden เราก็ไปด้วย อานนท์พา Lee เพื่อนใหม่ชาวเกาหลีไปด้วย
          Lee เป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณ 20 แต่ภาษาอังกฤษยังอ่อนมาก คุยอะไรด้วยก็ I don’t understand. เฮ้อ……อย่างนี้คงต้องเมื่อยมือไปอีกนาน
          เดินไป ถ่ายรูปไป จนหลงกับกลุ่ม เรากับอาดุลย์ก็เดินไปจนถึงสวนนะ แต่ไม่มีเวลาเข้าไปดูเพราะใกล้ 5 โมงแล้วจึงต้องรีบกลับ
          ใกล้ๆกับป้ายรถเมล์ด้านข้างสวน Botanic Garden มีกระบะลวดเคลือบพลาสติคใส่หนังสือพิมพ์ มีอักษรว่า Pick me up. เลยหยิบมาคนละเล่ม ถ้าไทยรัฐทำอย่างนี้บ้างคงสนุกนะ
          เดินถึง Cultural Centre 5 โมงพอดี สักครู่รถ 140 มาถึง เลยชวนกันขึ้นรถ คิดว่าอานนท์กับ Lee คงกลับกันเองไปแล้ว
          ถึง Browns Plains 5:45 . ยังมีเวลาอีกเยอะ อาดุลย์ชวนไปร้าน Adult World อื้อฮือ อ้าฮา โอ้โฮ อุอุอุ
          ขึ้นรถ 6:10 . พบเพื่อนบ้านเลยนั่งคุยกับเธอจนถึงป้ายลงรถ ไหว้อำลาเธอ วันนี้เธอไหว้ตอบนะ
          ถึงบ้าน โรบินคอยอยู่ก่อนแล้ว ถามเธอว่าราฟาเอลมาหรือยัง เธอบอกว่ามาแล้ว กำลังหลับ เราเปิดตู้เย็นเอาอาหารออกมาเข้าเตาไมโครเวฟ เพิ่งเห็นว่ามีพลาสติกเหมือนหมวกอาบน้ำครอบจานข้าวไว้ ไปถามโรบิน เธอบอกว่าไม่เป็นไร พลาสติกนี้เอาเข้าเตาไม่โครเวฟได้
          วันนี้มีปลานึ่ง ใต้ปลามีมะนาวหั่นเป็นแว่นๆ 5-6 แว่นรองอยู่ มีแตงกวาต้มและแครอทต้มวางเรียงด้านข้าง กินไม่ลงตามเคย แต่ก็กัดฟันกินจนปลาหมดนะ ก่อนกินบอกโรบินว่าวันนี้ข้าวมากจัง เธอบอกว่าลูกสาวเธอเป็นคนทำให้
          กินไปได้ 2 คำ ราฟาเอลก็ออกมา โรบินก็เอาอาหารมาให้ กินกันไป คุยกันไป แล้วเราก็อธิบายการเดินทางไปโรงเรียนให้ราฟาเอลฟัง โอย……..เป็นสิบๆเที่ยวเลยนะกว่าะเข้าใจ
          สรุปว่าพรุ่งนี้ ตื่น 5:30 . ออกจากบ้าน 6:40 . ถึงโรงเรียน 8:05 . โอเค….จบ แต่ราฟาเอลจะตื่นไปพร้อมเราทันไหม เท่านั้น

------------------------------------------




ไดโนเสาร์ที่ด้านข้างพิพิธภัณฑ์






สะพานรถไฟ
 





ป้ายรถเมล์ด้านข้างโรงเรียน

ไม่มีความคิดเห็น: