2 คน 1 ไม้
ในปีแรกที่ลงมาสอน
ป.3 นับว่าเป็นปีแห่งการฝึกสอนก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่บรรจุที่โรงเรียนอนุบาลนครนายก
ก็สอนประถมปลายมาโดยตลอด การสอนเด็กโตกับเด็กเล็กกิจกรรมที่จัดให้พวกเขาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เราต้องพิจารณาถึงวัย อารมณ์ และความต้องการของพวกเขา
เด็กโตเราต้องเน้นเนื้อหาและหลักไวยากรณ์
กิจกรรมที่จัดก็ต้องเน้นไปที่กระบวนการคิดและหลักภาษา เพราะเด็กต้องไปสอบ 0-net,
N.T. และสอบเรียนต่อในโรงเรียนมัธยม
แต่เด็กเล็กต้องสอนแบบเรียนปนเล่น
ให้เขาสนุกกับการเรียน มีทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ และอยากเรียนภาษาอังกฤษ
ซึ่งจะส่งผลให้พวกเขารักวิชานี้ และเอาใจใส่ในการเรียนวิชานี้ตลอดไป
จึงเป็นหน้าที่ของครู
ที่ต้องคิด จัดหากิจกรรมต่างๆเพื่อให้พวกเขาสนุกกับการเรียน และชอบวิชาภาษาอังกฤษ
อยากเรียนวิชานี้กับเราทุกวัน
ในช่วงนั้นผมสอนในห้องเรียนปกติ
ไม่ใช่ในห้อง Sound Lab แบบในปัจจุบัน
อุปกรณ์ที่ใช้ก็เหมือนเพื่อนครูท่านอื่นๆคือ ชอล์ก กระดานดำ บัตรภาพ บัตรคำ เชือก ตัวหนีบผ้า
เครื่องเล่น CD และไม้ชี้กระดาน.....อิอิอิ
ไม้ชี้กระดานที่ว่านี้ก็คือไม้เรียวนั่นเอง
ที่ผมต้องมีไม้เรียวไว้ประจำตัวไม่ใช่ว่าเอาไว้ทำโทษเด็ก
แต่เอาไว้เพื่อให้เด็กเอาไปชี้คำ หรือประโยคแล้วอ่าน
อย่างที่เคยเล่าให้ฟังในครั้งก่อนๆ
ว่า เวลาที่ผมเขียนคำ หรือประโยค ผมมักจะให้เด็กอาสาสมัครออกมาชี้คำหรือประโยคแล้วอ่านดังๆให้เพื่อนฟัง
คำศัพท์ก็อ่านแค่คำเดียว ประโยคก็อ่านประโยคเดียว
เพื่อต้องการให้เด็กมั่นใจคำหรือประโยคที่จะอ่านมากที่สุด และเด็กคนอื่นๆจะได้ออกมาอ่านบ้างส่วนคนที่เหลือก็จะเป็นกรรมการคอยตัดสินว่า
คำหรือประโยคที่เพื่อนๆอ่านนั้น ถูกหรือผิด
วันหนึ่ง
ผมก็ใช้วิธีนี้เช่นเคย ผมเขียนคำศัพท์ที่จะทบทวน 10 คำบนกระดานดำ ชี้คำศัพท์ให้เด็กอ่านทีละคำ จนครบ 2-3 เที่ยว
จากนั้นก็ให้เด็กออกมาอ่านคนละคำ ทีละคน เด็กออกมาเข้าแถวเพื่ออ่านเยอะมาก
ผมเลยได้แนวคิดใหม่
ผมให้เด็กกลับไปนั่งที่
แล้วบอกเด็กว่า ให้เด็กจับคู่กันออกมา เด็กก็ออกมา 3-4 คู่ ผมก็บอกเด็กว่าให้คนแรกจับปลายไม้ด้านล่าง
คนที่ 2 จับเหนือมือเพื่อนคนแรก แล้วให้เพื่อนคนอื่นที่นั่งอยู่
1 คน พูดคำศัพท์ 1 คำ เมื่อฟังคำที่เพื่อนอ่าน แล้วให้ช่วยกันชี้คำศัพท์โดยที่ไม่ให้มือหลุดจากไม้
ตอนนี้สนุกละ
ต่างคนยกไม้แล้วพยายามเอาไม้ไปชี้คำศัพท์ที่ตนเองมั่นใจที่สุด
ถ้าเป็นคำที่เข้าใจตรงกันก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเข้าใจต่างกันล่ะ
ต่างคนต่างพยายามเอาไม้ไปชี้คำที่ตัวเองมั่นใจทันที ไปกันคนละทิศคนละทางเลย ความสนุกมันอยู่ที่ตรงนี้
คราวนี้ในห้องจะวุ่นวายชั่วขณะ
เพราะเด็กจะลุกไปหาเพื่อนเพื่อจับคู่กันออกมาชี้คำศัพท์ ผมก็ได้แต่ปล่อยให้เด็กไปหาคู่ของตน
แล้วก็ให้เขาออกมาชี้คำศัพท์ตามที่เขาต้องการ
นี่เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ผมคิดได้ในขณะที่สอน
ครูเราได้ชื่อว่าเป็นนักหลอกเด็กอยู่แล้ว ลองพยายามคิดดูนะครับว่า
เราจะหากิจกรรมใดที่หลอกเด็กให้มาสนใจ และตั้งใจเรียนวิชาที่เราสอนมากที่สุด
ถ้าเราทำได้ นั่นแหละ เราจึงจะได้ชื่อว่า ครูมืออาชีพ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มณเฑียร ฤกษ์วิสาข์
2 สิงหาคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น