วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2562

ข้อคิดสำหรับครูที่ย้ายมาใหม่ 1


ข้อคิดสำหรับครูที่ย้ายมาใหม่ 1
โอ๊ตเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งจบครูที่เดียวกัน และได้ย้ายมาสอนที่โรงเรียนเดียวกับเรา ด้วยความที่เราเป็นครูเก่า อยู่ที่โรงเรียนนี้มาก่อนเมื่อเห็นเพื่อนอยากโชว์ฝีมือ โดยการรับงานมาก ก็ห่วงเพื่อนจึงเตือนเพื่อนด้วยความห่วงใยว่า
“โอ๊ต โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนใหญ่ มีงานเยอะ อะไรที่มึงอยากทำมึงก็ทำ อะไรที่มึงปฏิเสธได้ ก็ปฏิเสธไป ไม่ใช่ว่าไอ้โน่นมึงก็รับ ไอ้นี่มึงก็รับ ไม่งั้นมึงจะรับเละ และงานของมึง มึงก็จะทำไม่ทัน”
“อ๋อ มึงอิจฉากูเหรอ”
เพื่อนตอบแบบนี้ เราเจ็บปวดมากจริงๆเลย เพื่อนมองความปรารถนาดีของเราเป็นความอิจฉาไปแล้ว
ปีต่อมา
“ไอ้เทียน มาช่วยกูทำงานหน่อย งานกูเยอะ กูทำไม่ไหวแล้ว”
“อ้าว กูเตือนมึงแล้วไง แล้วมึงก็บอกว่ากูอิจฉามึง”
“ถ้ากูไม่ทำอย่างนี้ กูจะได้สองขั้นเหรอ”
“ไอ้เหี้ย นี่หรือวะเพื่อน พอได้สองขั้นแล้ว ได้ความดีความชอบแล้ว มาโยนงานให้คนอื่น”
“เฮ้ย กูพูดเล่น กูพูดเล่น” เพื่อนพูดเล่นจริงไหม
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“ไอ้เทียน ช่วยแปลงโน้ตเพลงพระราชนิพนธ์ เป็นโน้ตตัวเลขให้กูหน่อย กูจะเอาไปสอนเด็กวงดุริยางค์”
“มึงจะเอากี่เพลง เอาเพลงอะไรมั่ง”
“เพลงใกล้รุ่ง ยามเย็น สายฝน”
“ได้ เดี๋ยวกูจัดให้”
วันรุ่งขึ้น
“โอ๊ต นี่ เพลงที่มึงอยากได้”
“มึงช่วยกูอย่างนี้ดีแล้ว กูมาอยู่อนุบาลนี่ กูอยากให้เขารู้ว่า อะไรที่มึงทำได้ กูก็ทำได้
อีก 3-4 ปีต่อมา
“ไอ้เทียน ถ้ามึงกลับมาทำดุริยางค์นะ กูจะทูลเกล้า ถวายให้มึงเลย กูเบื่อชิบหายเลย”
“ไอ้โอ๊ต ถ้ากูอยากทำดุริยางค์นะ มึงไม่ได้แตะหรอก แล้วอีกอย่าง กูโยนให้ไอ้ชัย ไม่ได้โยนให้มึง มึงเสือกเอง”
ตอนที่คุยกันตอนนั้น เราสองคนอายุประมาณ 31
------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนอายุ 40 ได้คุยกันในงานแต่งงานลูกสาวเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องการทำวงดุริยางค์ของโรงเรียน
“ไอ้เทียน กูเบื่อชิบหายเลย”
“เรื่องของมึง ก็มึงเก่งนี่หว่า” หยุดเว้นระยะสักพักจึงพูดต่อว่า “โอ๊ต โอกาสที่ครูจะได้ย้ายมาโรงเรียนเรานี่ ยากไหม”
“ยากว่ะ ยากมาก”
“ในจำนวนที่มึงว่ายากน่ะ เผอิญมีครูได้ย้ายมา โอกาสที่เขาจะทำวงดุริยางค์เป็นนี่ ยากกว่าไหม”
“อืม ยากกว่ามากว่ะ”
“เพราะฉะนั้น มึงจงทำวงดุริยางค์ไปจนกว่าจะเกษียณ”
“เฮ้ย ไม่หรอก”
ก็ได้แต่พูดไป ความจริงคือโอ๊ตทำวงดุริยางค์ตั้งแต่อายุ 29 จนเกษียณ ได้โชว์ฝีมือสมความตั้งใจแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------
ท้อป เป็นลูกศิษย์ที่เรียนจบเอกพลศึกษา ตอนนี้มาเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียน  ใหม่ๆก็สอนพละอย่างเดียว แต่ต่อมาก็ไปช่วยคนงานติดตั้งเครื่องเสียงในอาคารอเนกประสงค์ตอนที่มีการประชุมผู้ปกครอง หรือไม่ก็มีงานสังสรรค์ในโรงเรียน และต้องหัดควบคุมเครื่องเสียงไปด้วย และตอนหลังกลายเป็นหน้าที่ประจำที่จะต้องติดตั้งและควบคุมเครื่องเสียงตลอด
วันหนึ่งหลังจากที่เราเกษียณไปแล้ว ได้ไปรับครูกฤษณาที่โรงเรียน และเห็นท้อปกำลังติดตั้งเครื่องเสียงและทดลองไมค์อยู่ พอท้อปเห็นเราก็วางไมค์ เดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า
“ครูครับ ผมซึ้งกับคำว่า ภาระผูกพัน ที่ครูเตือนผมแล้วครับ” เรายิ้ม ฟังท้อปพูดต่อ “ครูครับ ถ้าผมไปบรรจุที่อื่น แล้วผมย้ายมาสอนที่นี่ งานนี้ผมจะโดนทำอีกไหมครับ”
“โดนแน่ ยังไงท้อปก็ต้องโดน เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าท้อปทำได้ ทำเป็น”
พอได้ยินคำตอบของเรา ท้อปหน้าเสียทันที
คนเราทำอะไรได้ ทำอะไรเป็น พอผู้บริหารรู้ก็จะได้รับมอบหมายให้ทำ ไม่มีทางปฏิเสธได้ ถ้าปฏิเสธเมื่อใด ก็เป็นการฆ่าตัวตายทันที เพราะฉะนั้น อย่าให้ใครรู้ว่าเราทำอะไรได้ ทำอะไรเป็น

----------------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น: