วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เทคนิคการหลอกเด็ก 8 (คุณครูครับมีชื่อผมไหมครับ)


เทคนิคการหลอกเด็ก 8  (คุณครูครับมีชื่อผมไหมครับ)


           ชั่วโมงแรกในตอนเช้าผมจะว่างทุกวัน และในช่วงนี้เองที่ผมจะเช็คว่าแต่ละห้องสอนถึงไหนแล้ว และวันนี้จะสอนอะไร ผมจะเปิด Powerpoint ที่ผมทำไว้ในปีก่อนๆมาดู แล้วพิจารณาว่า Powerpoint ที่ทำไว้นั้นสมควรที่จะปรับปรุงใหม่ไหม ถ้าคิดว่ายังไม่สมบูรณ์ หรือมีที่ผิด หรือต้องการจะเพิ่มเติมอะไร ก็จัดการตอนนั้นเลย
        ในหนังสือเรียน Say Hello ของชั้น ป.3 ฉบับใหม่ที่ผมใช้สอนอยู่นี้ มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้น้อยลง สั้นลงเพื่อให้เหมาะสมกับเวลาเรียนที่กระทรวงฯกำหนดไว้ที่ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ทางฝ่ายวิชาการโรงเรียนให้ความสำคัญกับวิชาภาษาอังกฤษจึงเพิ่มให้อีก 1 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จึงเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องเพิ่มเนื้อหาเพื่อให้เหมาะสมกับเวลาเรียน และเพื่อฝึกทักษะทางภาษาให้แก่เด็กๆมากขึ้น
ในหน่วยที่ 6 Our Weekend ที่ผมกำลังสอนนี้ มีการสอนโครงสร้างประโยคในรูป Present Continuous Tense  แต่ในหนังสือเรียนมีให้เด็กอ่านและทำแบบฝึกหัดไม่มาก ผมจึงต้องเพิ่มเนื้อหาและหาวิธีให้เด็กสนุกกับการเรียนมากยิ่งขึ้น
ผมพิจารณาเนื้อหาใน Powerpoint แต่ละกรอบที่ทำไว้อย่างช้าๆ เพื่อพิจารณาว่าจะเพิ่มเติมหรือจะตัดส่วนไหนออก พอมาถึงกรอบที่มีรูปผู้คนกำลังเล่นกันอยู่ที่ชายหาด ผมก็ได้ความคิดที่จะทำให้เด็กตั้งใจและสนใจเรียนทันที
ปกติพอเข้าห้องสอน ผมจะเริ่มจากให้เด็กอ่านคำศัพท์ในใบคำศัพท์ที่ผมทำแจก เปิด Powerpoint ให้เด็กอ่านบทสนทนาง่ายๆ ทบทวนความรู้เดิมที่เรียนมาแล้ว และเข้าเนื้อหา
ก่อนเข้าเนื้อหาที่เป็นเนื้อเรื่อง ผมก็จะทบทวนคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องอีกครั้ง



เปิดกรอบภาพใหม่เพื่อให้เด็กอ่านเนื้อเรื่อง  ฝึกเด็กอ่านตามวิธีการ Pyramid Drill จนเด็กอ่านได้ ก็จะใช้วิธีการอ่านไปให้ความหมายไป โดยที่คำใหม่หรือคำยากผมก็จะใส่ความหมายไปบนคำศัพท์นั้นๆ



ผมเปิดกรอบภาพต่อไปเป็นรูปผู้คนอยู่บนชายหาด และให้เด็กเปิดหนังสือหน้าที่มีเนื้อเรื่องนี้


ผมบอกเด็กว่าถ้าผมยิงแสงเลเซอร์ไปที่รูปไหน ให้เด็กๆอ่านประโยคที่อธิบายรูปนั้นๆ เช่น ผมยิงไปที่
เด็ก 3 คนกำลังวิ่งเล่น เด็กก็จะพูดว่า Three boys are running on the beach. ผมยิงไปที่ผู้หญิงกำลังดื่มน้ำส้ม เด็กๆก็จะพูดว่า A woman is sitting under an umbrella. อย่างนี้เป็นต้น

        พอจบขั้นตอนนี้ ก็จะเป็นขั้นตอนที่ผมเพิ่มขึ้นมาใหม่ โดยผมจะใส่ชื่อเด็กในห้องที่กำลังสอนลงใต้รูปทุกรูป ถึงตรงนี้เด็กๆจะตื่นเต้นกันมาก ห้องเรียนจะวุ่นวายไปชั่วขณะ ในขณะเดียวกันผมก็จะพูดหยอกล้อเด็กไปด้วย เช่น “แหม! วันนี้ทำไมนิตยาหน้าแก่จัง” “ชุติกาญจน์นอนกินน้ำส้มสบายเลยนะ น่าอิจฉา” ฯลฯ เด็กๆจะหัวเราะและจะมีเสียงแทรกมาเป็นระยะๆว่า “คุณครูครับ มีชื่อผมไหมครับ” หรือไม่ก็ “มีชื่อหนูไหมคะ” เด็กๆจะฟังไป ดูไป ยิ้มไป


ถึงตอนนี้ผมก็จะให้เด็กพูดอธิบายรูป โดยที่ผมจะยกตัวอย่างก่อนว่า “Siriphong is swimming in the sea.” ในขณะที่เด็กพูด ผมจะฟังว่าเด็กใช้ is, are ในประโยคถูกไหม ถ้าผิด ผมก็จะทบทวนการใช้ is, am, are อีกครั้ง
หลังจากเด็กพูดจบ ผมก็จะให้เด็กแต่งประโยคลงในสมุด 5 ข้อตามที่เขาต้องการ แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะเขียนชื่อเด็กๆเป็นภาษาอังกฤษบนกระดานให้เด็กด้วย

ก่อนออกจากห้อง ผมได้ยินเสียงเด็กๆพูดว่า “ครูครับ คราวหน้าใส่ชื่อผม / หนู ด้วยนะครับ / คะ”
         

******************************************************************************